วงดนตรีเมือง"ละโว้"หนีตายโควิด รับบรรเลง"งานศพ"

    พิษโควิด-19 ห้ามจัดงานรวมกลุ่มคนทำนักดนตรีตกงานยืดเยื้อ วงดนตรีเมืองละโว้พลิกแนวคิด เปลี่ยนจากงานมงคลหันไปรับบรรเลงเพลงในงานศพแทน  แม้รายได้ลดแต่ต้องประคองตัวให้ผ่านวิกฤต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ธุรกิจต่างๆ ใน จ.ลพบุรีได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก    รวมทั้งการจัดงานมงคล เช่น งานมงคลสมรส  อุปสมบท ที่มีคนมาร่วมงานมาก ๆ ก็ต้องยกเลิก หรือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ตามประกาศของ ศบค.  เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ทำเอาบรรดาผู้รับจ้างจัดงาน หรือ ออแกไนซ์   วงดนตรี ที่มีรายได้จากงานบันเทิงต่างประสบปัญหาเป็นอย่างมาก ต้องดิ้นรนทุกทางให้อยู่รอด   
    

บางรายหลังจากไม่มีงานถึงกับต้องประกาศขายเครื่องดนตรี  เครื่องเสียง  เพื่อให้อยู่รอด   แม้กระทั่งมีการเรียกร้องเรียกร้องให้ทางการช่วยเยียวยา อาจจะเป็นเรื่องพักชำระหนี้กับทางสถาบันการเงิน ไฟแนนซ์ต่าง ๆ เพราะขาดรายได้ แต่ยังมีภาระต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนอุปกรณ์ทำมาหากิน   อย่างน้อย ๆ เป็นการผ่อนหนักเป็นเบาบ้าง
    

แต่วงดนตรีบางวง ได้ปรับแนวคิดเปลี่ยนแนวทางการรับงานเล่นดนตรี จากเดิมรับงานมงคล มาเป็นบรรเลงในงานอวมงคล ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากเจ้าภาพต่าง ๆ ไม่น้อย                                  
                 

จ.ส.อ.สมเดช  แจ้งบุญ    เจ้าของและผู้จัดการวงดนตรี”จ้าวจ๋อ”  วงดนตรีชื่อดังใน จ.ลพบุรี เผยว่า ปกติจะรับงานเล่นดนตรีตามงานมงคลสมรส  งานอุปสมบท ในพื้นที่ลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียง  ในรูปแบบสมัยใหม่บรรเลงด้วยไวโอลิน ฟรุ๊ต  และเครื่องดนตรีสากล  ที่มีนักดนตรีชาย-หญิง ร่วมบรรเลง  รวมทั้งยังมีการพัฒนาบรรเลงไวโอลินบนล้อเลื่อนไปทั่วบริเวณงาน   ซึ่งได้รับความสนใจจากเจ้าภาพ เป็นอย่างมาก
    

ที่ผ่านมามีงานแสดงอย่างต่อเนื่องเดือนละกว่า 10 งาน บางเดือนถึง 20 งาน รวมทั้งมีการจองคิวไปถึงหลายเดือนเลยทีเดียว    ทำให้นักดนตรี นักนร้องและสมาชิกของวงต่างมีรายได้ที่ดี      แต่หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  ทำให้งานต่าง ๆ ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด บางงานถึงกับยกเลิก   ทำให้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากภาวะขาดงานขาดรายได้ ซึ่งต่างก็ดิ้นรนปรับตัวหารายได้ทางอื่น โดยตนเองหันเปิดร้านรับซ่อมโทรศัพท์มือถือ ในตลาดนัดโรงพยาบาลอานันทมหิดล  เพื่อมีรายได้เข้ามาเลี้ยงครอบครัว   เพราะตนเองเป็นทหารนอกราชการ 
               

กระทั่งได้พูดคุยกับ“ร้านแป้งดอกไม้สด”ผู้ประกอบการธุรกิจออแกไนซ์เซอร์ ชื่อดังในจังหวัดสระบุรี  ที่มีความคุ้นเคยกันในช่วงที่รับงานเล่นดนตรี  เห็นว่าในช่วงนี้งานรื่นเริงสังสรรค์ได้ถูกห้ามจัด  แต่งานอวมงคลยังคงมีอยู่  ซึ่งทางร้านแป้งดอกไม้สด ได้รับจัดดอกไม้ทั้งในและนอกสถานที่ จัดงานพิธี ของชำร่วย พวงหรีดดอกไม้สด  ในงานศพต่างๆ อยู่ด้วย  จึงชักชวนกันปรับรูปแบบของการรับงานจากงานมงคลสมรส  มาเป็นการเล่นดนตรีในงานศพ เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก่ผู้วายชนม์อย่างสมเกียรติ   โดยบริการบรรเลงในงานสวดพระอภิธรรม และ ฌาปนกิจศพ ซึ่งปรากฏว่าหลังจากรับงานดังกล่าวมา 3-4 งาน เป็นที่ชื่นชอบของเจ้าภาพเป็นอย่างมาก  แม้กระทั่งผู้ร่วมงานยังมาขอถ่ายภาพกับนักร้องนักดนตรี   และยังมีการขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่องานไว้อีกด้วย  
                 

“ปกติเราไปช่วยเล่นดนตรีในงานศพอยู่บ้างแล้ว ซึ่งอาจเป็นวงแรก ๆ ที่เล่นดนตรีในงานศพ    แต่หลังจากพิษโควิด-19  จึงต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด และให้น้อง ๆ นักร้องนักดนตรีมีรายได้   ซึ่งราคาจะแตกต่างจากในช่วงสถานการณ์ปกติ  โดยลดลงมา 20-30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว  และดูตามความต้องการของเจ้าภาพ ที่บางงานอาจใช้ดนตรีเพียง 2 ชิ้น บางงานอาจจะใช้เครื่องดนตรีหลายชิ้น ในการขับกล่อมให้แก่แขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป รวมทั้งสถานที่ด้วย  หากเป็นต่างจังหวัดก็จะให้เจ้าภาพช่วยเหลือค่าน้ำมันในการเดินทาง"
                   

ทั้งนี้ รูปแบบการบรรเลง เช่น ในการสวดพระอภิธรรม   เริ่มบรรเลงตั้งแต่ช่วงเย็นระหว่างรอผู้เข้าร่วมงาน (18.00 น.-19.00 น.) และหลังจากเสร็จพิธีสวดฯ จนผู้ร่วมงานกลับ    ส่วนในพิธีฌาปนกิจ (13.00 น.-17.00 น. )   จะบรรเลงเป็น 3 ช่วงใหญ่ ๆ 
    ช่วงที่ 1 ระหว่างรอเข้ามาสู่ฌาปนสถาน 
    ช่วงที่ 2 วนรอบเมรุ ปรับเปลี่ยนจากการแห่ด้วยแตรวง เป็นวงดนตรีแบบ Light Music และบรรเลงต่อในระหว่างการรอช่วงพิธีการ  และ
    ช่วงที่ 3 หลังพิธีการ และวางดอกไม้จันทน์   
    

ทั้งนี้ เพลงที่ใช้มีทั้งการบรรเลงและร้อง ประกอบด้วยเพลงไทยเดิม เพลงลูกกรุง จนถึงเพลงสากล เพื่อสร้างบรรยากาศการขับกล่อมที่ระรื่นหู  และคลายความโศกเศร้า   หากผู้วายชนม์เป็นผู้สูงอายุ ก็จะเลือกแนวเพลงลูกกรุง รักหวาน เช่น เพลงรักเธอเสมอ  เสน่หา   ครวญ    ขณะที่เจ้าภาพจัดงานให้บุพการี ตนเองก็จะเลือกเพลงที่มีความหมายเน้นการมีพระคุณของผู้วายชนม์ รวมถึงการแต่งกายของนักดนตรีที่เน้นสุภาพ เป็นการให้เกียรติแก่ผู้วายชนม์และผู้ร่วมงาน  
               

“การตั้งเครื่องเสียงและเครื่องดนตรีในงานดังกล่าว  จะตั้งในระยะที่ห่างจากผู้ร่วมงานพอสมควร  เพื่อรักษาระยะห่างตามมาตรการป้องกัน  ซึ่งบางครั้งผู้ร่วมงานก็ยังเข้าใจว่าเป็นการเปิดซาวด์ดนตรี ไม่ใช่เล่นดนตรีสด    แม้กระทั่งดนตรีก็เน้นการบรรเลงเป็นส่วนใหญ่ และหากจะมีการขับร้องก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งก็จะอึดอัดพอสมควร  แต่ก็เป็นการป้องกันตนเองและผู้อี่นไปด้วย  ดังนั้น เมื่อเราต้องเจอสถานการณ์อย่างนี้  เราก็ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้เดินต่อไปได้  ”  ผู้จัดการวงดนตรีชื่อดังกล่าว