ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว โดยมีสาระสำคัญที่ระบุถึง ข้อมูล real world data ขนาดใหญ่ของ UK ที่แสดงให้เห็นว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า “AstraZeneca”และไฟเชอร์ “Pfizer” สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดได้จริง
และอธิบายว่าวัคซีนโควิดแทบทุกชนิดถูกออกแบบมาให้ตอบคำถามหลัก 1 ข้อเหมือนกันหมดคือ วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วย หรือติดเชื้อแบบมีอาการ (symptomatic infection) ของโควิด แต่คำถามที่สนใจมากที่สุด ก็คือ วัคซีนป้องกันไม่ให้ติดเชื้อได้หรือไม่
การจะตอบคำถามเรื่องการป้องกันการติดเชื้อได้นั้น จะต้องมีการตรวจหาเชื้อกับอาสาสมัครเป็นระยะ ไม่ว่าจะมีอาการ หรือไม่ก็ตาม ซึ่งวิธีการศึกษาแบบนี้ทำยากมาก เพราะจะต้องปูพรมตรวจอาสาสมัครจำนวนมาก ตรวจเป็นระยะไปเรื่อย ๆ ใช้เวลานาน ค่าใช้จ่ายสูง และคงไม่ค่อยมีอาสาสมัครยอมให้แยงจมูกตรวจเชื้อเป็นระยะได้ง่าย ๆ การเลือกศึกษาแบบนั้นคงไม่ทันการผลักดันให้วัคซีนออกมาใช้โดยเร็ว
ศ.นพ.มานพ ยกงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Nature Medicine ซึ่งทีมนักวิจัยทำการรวบรวมข้อมูลของ Office of National Statistics ทำการสุ่มตัวอย่างประชากรในครอบครัวทั่วอังกฤษโดยติดตามข้อมูลการฉีดวัคซีนทั้ง Pfizer และ AstraZeneca ร่วมกับการตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR เป็นระยะตามตารางเวลา ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะมีอาการหรือไม่ก็ตาม แล้วทำการวิเคราะห์ข้อมูล
ทีมนักวิจัยได้ข้อมูลประชากรราว 383,000 คน ซึ่งมีการทำ RT-PCR ตรวจหาเชื้อเกือบ 2 ล้านครั้ง และในช่วงที่ฉีดวัคซีนก็ มีการระบาดของ Alpha variant อย่างหนักพอดี
พบว่าคนที่ฉีดวัคซีน 1 เข็มไปอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ป้องกันการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ได้ถึง 61% ถึง 66% (สำหรับ AZ และ Pfizer ตามลำดับ) และถ้าฉีดครบ 2 เข็มจะป้องกันได้ถึง 79% ถึง 80% (สำหรับ AZ และ Pfizer ตามลำดับ) และพบว่า การฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อแบบจำนวนเชื้อมาก สูงขึ้นไปถึง 91%
“ไม่น่าแปลกใจว่า การที่ UK ปูพรมวัคซีนทั้งสองชนิดเป็นวงกว้าง นอกจากจะลดจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาล และลดการเสียชีวิตแล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากประชาชนได้รับวัคซีนไประยะหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากจะช่วยให้ผู้ได้รับวัคซีนไม่ป่วย ไม่ป่วยหนัก ลดภาระระบบโรงพยาบาลลงแล้ว ยังช่วยตัดตอนการระบาดได้เร็ว ลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และทำให้หนทางสู่ herd immunity เป็นไปได้ง่ายขึ้น”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง