อโควิโท 

12 มิ.ย. 2564 | 02:44 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มิ.ย. 2564 | 02:47 น.

แบรนด์ สตอรีส์  โดยกฤษณ์  ศิรประภาศิริ [email protected]

อโควิโท ปรมา ลาภา

ความไม่มีโควิด เป็นลาภอันประเสริฐ

ไม่เชื่อก็อย่า “ลบหลู่” ครับ เป็นที่ทราบกันทั่วประเทศว่าทางการเขารับปากว่าจะฉีด “วัคซีน” ป้องกันโควิด19 ให้กับ “กลุ่มเสี่ยง” (ตามหลักสากล-คุณธรรม) ที่อุตส่าห์จองผ่าน “หมอพร้อม” (แต่แรกๆ) กัน เริ่มวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ถือเป็น “วันดีเดย์” เป็น “วาระแห่งชาติ” (นี้)

แต่ด้วยการบริหารวัคซีนแบบ “มือสมัครเล่น” แบบอ่อนประสบการณ์ (อ้างได้ว่าไม่เคยเกิดโรคนี้มาก่อน) แบบกทม. เป็นประเทศราชของ “บุรีรัมย์” ฯลฯ

โรงพยาบาลในพื้นที่กทม.หลายแห่ง แจ้งว่า ยังไม่ได้รับวัคซีน บางแห่งที่ได้รับการจัดสรรก็ไม่ได้รับตามที่ขอไป รพ.หลายแห่งก็แจ้งคนรอว่า “งั้นอย่าเพิ่งเปิดฉีดเลย”

การเปิดฉีด “ปูพรม” วันที่ 7 มิถุนายนศกนี้ ก็คงต้องเปิดฉีดให้ได้ ไม่ใช่วัคซีนป้องกันโควิด19 เสียแล้ว แต่เป็น “วัคซีน” เสริมสวย ป้องกันทางการ “หน้าแตก” เสร็จวันที่ 7 “พรม” ที่ปู คงเก็บปิดฉากในเร็ววัน หากขาด “วัคซีน”

รอการจัดสรร “วัคซีน” ด้วยการบริหารจัดการแบบ “ข้ามาคนเดียว” ในอนาคต

วันนี้ (7 มิถุนายน) ดูข่าวทีวี ทึ่งกับตัวแทนประกันสังคม ที่จัดการฉีดวัคซีนและออกมาขอบคุณ นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กรุณาจัดสรรวัคซีนมาให้ “ประกันสังคม”

ผมแทบตกเก้าอี้ LAZY BOY สงสัยว่า “วัคซีน” ที่ฉีดกันอยู่นี้เป็นของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่เมื่อไหร่

“เงิน” ที่จัดหาวัคซีนมาเป็นเงินที่ท่าน “บริจาค” มาสักกี่บาท หรือ “ตู่” สมชื่อ (ฮา)

เงินภาษีเราๆ ท่านๆ ขอรับ

อโควิโท 

หลักสากลที่ให้ลำดับความสำคัญการฉีดวัคซีนกับบุคคลโดยยึดหลัก “คุณธรรม”

กลุ่มแรก คือ บุคลากรทางการแพทย์ ที่เหมือน “ทัพหน้า” เสี่ยงภัย นักรบ “เสื้อขาว เสื้อเขียว”

กลุ่มต่อมา คือ ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ด้วยสภาพร่างกาย มีความเสี่ยงสูงที่จะติดโรคโควิด 19 มากกว่าหนุ่มสาว หรือคนที่ไม่มีโรคประจำตัว

ไม่ได้มีการพูดถึง นักการเมือง รัฐมนตรี ผู้ติดตาม ฯลฯ

ก่อนที่บุคลากรทางการแพทย์จะได้รับการฉีด “วัคซีน” ถ้วนทั่วทุกตัวคน ก่อนที่คนชรา คนป่วย กลุ่มเสี่ยง จะได้รับ “วัคซีน” เมตตาธรรม ป้องกัน

เราได้เห็นการฉีดให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สว. สส. ผู้ติดตาม ฯลฯ (รับไม่ค่อยได้) มีรัฐมนตรีอย่างน้อย 2 คน พอได้ “วัคซีน” ก็ลั้ลลา จัดปาร์ตี้จนเกิดคลัสเตอร์ เป็นต้นเหตุระบาดอุบาทว์ (คุณก็คงรับไม่ได้)

เรามีความ “เอื้ออาทร” คิดเผื่อ กระทั่ง “สาว” ที่ให้บริการ เห็นว่ามีความเสี่ยงในสถานอโคจร คิดจะฉีดให้ทั้ง LOUNGE จนมีคำกล่าวในหมู่วงการหมอ (ปากจัด) ที่ล่วงรู้ความคิดทำนอง “เออ กะหรี่ได้ฉีดก่อนหมอ” (ฮา)

เศรษฐี มหาเศรษฐี ที่เคยบริจาคให้โรงพยาบาล ก็ได้รับการเชิญให้มาฉีด “วัคซีนวิเศษ” ในฐานะ “ผู้มีพระคุณ”

จริงๆ ผมว่า ท่านเหล่านั้น ตอนบริจาคทำบุญก็คงไม่ได้คิดว่า จะได้มีอภิสิทธิ์สามารถเข้าถึง “วัคซีน” ที่หายากก่อนใคร (แต่ข้อนี้ ก็พอรับได้ “ท่านผู้มีพระคุณ”)

“วัคซีน” เป็นทรัพยากรมีค่า หาควรมาฉีด “สุรุ่ยสุร่าย” ไม่ 

ใช้จ่ายเกินตัว แต่เวลาหา (วัคซีน) กลับไม่มีความสามารถ

ก็ต้องรอดูฝีมือ “ลุงตู่” ครับ แต่ประเภท “ข้ามาคนเดียว” หรือ “ข้ามาหลายคน แต่ไม่มีใครช่วยข้าสักคน” คงไปไม่รอด

พระทุกวัด ตอนนี้สวดมนต์ไล่ “โควิด” กันเป็นแล้ว

“อโควิโท โควิโท โก ฟาร์ ฟาร์”

อย่าให้ถึง “บทสุดท้าย”

“อปยุตโต ปรมา ลาภา” สาธุ

หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,686 วันที่ 10 - 12 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :