“ปรีติ ฮาลัย” ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจ เนสเพรสโซ ประเทศไทย กล่าวว่า การทำประโยชน์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเนสเพรสโซ ล่าสุด จึงเชิญชวนคอกาแฟ ร่วมส่งคืนแคปซูลกาแฟใช้แล้ว เพื่อนำไปรีไซเคิลโดยการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่วนในประเทศไทย เนสเพรสโซริเริ่มโครงการรีไซเคิลมาตั้งแต่ปี 2017 ผ่านแคมเปญ Doing is Everything ส่งเสริมให้ลูกค้าเนสเพรสโซนำแคปซูลกาแฟใช้แล้วกลับมาคืนพร้อมรับ Nespresso Grow Kit กลับไปปลูกผักที่บ้าน หรือโปรเจ็กต์พิเศษกับเชฟตาม-ชุดารี เทพาคำในการนำกากกาแฟของแคปซูลใช้แล้ว มาเป็นส่วนผสมของดินในการปลูกผัก และนำผักนั้นมารังสรรค์เป็นอาหาร เป็นต้น
แนวทางดำเนินธุรกิจแบบ The Positive Cup เป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจของเนสเพรสโซ ซึ่งหมายถึง การสร้างสรรค์กาแฟที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อโลก ตั้งแต่กระบวน การเพาะปลูกไปจนถึงการดื่มกาแฟผ่าน 3 เป้าหมาย คือ 1. ยกระดับการจัดการกับอะลูมิเนียม และทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด (reduce, reuse, recycle) 2. ยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟ และ 3. ภายในปี 2022 กาแฟทุกๆ แก้วของเนสเพรสโซ จะปลอดคาร์บอนไดออกไซด์
นอกจากนี้ เนสเพรสโซได้ร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไร TechnoServe, U.S Agency for International Development (USAID) และนักธุรกิจค้ากาแฟ Virunga Coffee/Olam International เพื่อเข้าไปทำงานกับชาวไร่กาแฟที่อาศัยอยู่ในคีวูตอนใต้จำนวน 2,500 คน โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพกาแฟและปริมาณผลผลิต รวมถึงวางรากฐานการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 17 ฉบับที่ 3,686 วันที่ 10 - 12 มิถุนายน พ.ศ. 2564