สอวช.สำรวจนิเวศและประเมินศักยภาพ การเปิดกองหินใต้น้ำ ทะเลตะวันออก 48 แห่ง เป็นจุดดำน้ำวิถีใหม่ เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ-สิ่งแวดล้อม เสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ห้องประชุม Cruisus ริมหาดแหลมแม่พิมพ์ ต.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองศาสตราจารย์ ดร.ธรรมศักดิ์ ยีมิน นายกสมาคมวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งประเทศไทย ศาสตราจารย์รับเชิญ มหาวิทยาลัยชิสุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น และ นายอัครวิทย์ เทพาสิทธิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานระยอง พร้อมด้วยอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) โดยหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ(บพช.) ได้เปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบริเวณกองหินใต้น้ำในอ่าวไทยภาคตะวันออก มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการท่องเที่ยวดำน้ำในพื้นที่ ร่วมประชุมฯ
รองศาสตราจารย์ ดร.ธรรมศักดิ์ ยีมิน นายกสมาคมวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับโครงการการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบริเวณกองหินใต้น้ำในอ่าวไทยภาคตะวันออก มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการสนับสนุนแผนปฏิบัติการการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีโครงการวิจัยย่อย 3 โครงการ ประกอบด้วย
1) การศึกษาระบบนิเวศและการประเมินศักยภาพของกองหินใต้น้ำบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันออกเพื่อการใช้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
2) การประเมินขีดความสามารถในการรองรับได้ของแหล่งท่องเที่ยวกองหินใต้น้ำที่สำคัญบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันออก และ
3) การศึกษาสถานการณ์การท่องเที่ยวทางทะเลและสภาพเศรษฐกิจสังคมบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันออก
โดยแบ่งเป็นพื้นที่ของกองหินใต้น้ำรวม 48 จุด อยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง 12 แห่ง จ.จันทบุรี 9 แห่ง และ จ.ตราด 27 แห่ง เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศดำน้ำลึกในแบบวิถีใหม่ (New Normal) พร้อมทั้งแนวปฏิบัติที่ดีสำหรับการดำน้ำที่ประยุกต์จากรูปแบบของ Green Fins
โครงการมุ่งเน้นการส่งเสริมกิจกรรมดำน้ำลึกบริเวณกองหินใต้น้ำ เพื่อเรียนรู้ธรรมชาติหรืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทษจากการเติบโตของธุรกิจที่ยั่งยืน
ด้านนายอัครวิทย์ เทพาสิทธิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานระยอง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอีกมิติเกี่ยวกับการดำน้ำลึก รวมถึงยังสร้างความปลอดภัยตาอนักท่องเที่ยว และยังรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งแหล่งดำน้ำลึกของระยอง 17 แห่ง นับว่ามีความงดงามทั้งความสมบูรณ์ของธรรมชาติ
จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ระยะทางไม่ไกลจนเกินไป เพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกดำน้ำสำหรับมือใหม่ หรือเป็นแหล่งดำน้ำทางเลือกใหม่สำหรับผู้ชื่นชอบในการดำน้ำลึก นอกจากนี้ยังมีความงดงามของธรรมชาติชายหาดที่ขาว น้ำทะเลใสสะอาดให้เลือกมาท่องเที่ยวอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง