วันที่ 26 มิถุนายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เผยว่า วันนี้ ได้มาตรวจเยี่ยมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามระดับสูง รองรับผู้ป่วยอาการหนักและปานกลางค่อนหนัก เนื่องจากขณะนี้มีความต้องการเตียงรักษาผู้ป่วยหนักมากขึ้น นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. จึงได้สั่งการให้ 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงสาธารณสุข กทม. และกองทัพบก บูรณาการสรรพกำลัง โดยได้ยกระดับโรงพยาบาลสนามแห่งเดิมเพื่อดูแลผู้ป่วยหนักให้ได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มณฑลทหารบกที่ 11 กระทรวงกลาโหม, เครือ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) และกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันปรับโรงพยาบาลสนามมณฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งมีความพร้อมเรื่องอาคารที่มิดชิด สะดวก สบาย มีความปลอดภัย จากเดิมที่รับดูแลผู้ป่วยสีเขียว จะยกระดับให้ดูแลผู้ป่วยหนักได้ 186 คน ภายใน 7 วัน คาดว่าจะเปิดได้ในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
สำหรับการยกระดับโรงพยาบาลสนามแห่งนี้เพื่อดูแลผู้ป่วยหนัก ใช้หลักการเดียวกับโรงพยาบาลบุษราคัม เมืองทองธานี มีห้องแยก เครื่องออกซิเจน High flow ติดตั้งระบบไหลเวียนออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย ระบบควบคุม ทีวีวงจรปิด เครื่องมอร์นิเตอร์ติดตามอาการ จัดแพทย์ พยาบาล เครื่องมือแพทย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งมีประสบการณ์ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยเป็น 2 ชั้น 4 อาคาร มีระบบอากาศความดันลบตามมาตรฐาน ชั้นล่างเป็นเตียงสำหรับผู้ป่วยหนัก สีแดง 58 เตียง เพื่อให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และชั้น 2 จะเป็นหอผู้ป่วยสีเหลืองเข้มและเหลืองอ่อน 128 เตียง เมื่อผู้ป่วยอาการดีขึ้นเป็นสีเขียวจะส่งต่อไป Hospitel หรือโรงพยาบาลสนาม
“ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นภาพที่เห็นได้ชัดเจนว่า เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นบุคลากรสาธารณสุข ทั้งภาคราชการ กองทัพ กระทรวงสาธารณสุข และเอกชน จะร่วมมือกันดูแลประชาชน ขอให้ไม่ต้องกังวล และจะจัดตั้งเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด รักษาหายจากโรคโดยเร็ว ทุกฝ่ายทำอย่างเต็มที่ ด้วยความห่วงใย ต้องการให้ประชาชนและประเทศของเราปลอดภัย” นายอนุทินกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง