น่าแปลกใจที่วันนี้ประเทศไทยมี “วัคซีน” มากถึง 3 ประเภท แต่กลับไม่เพียงพอที่จะฉีดให้กับคนไทย ไม่ว่าจะเป็น
“วัคซีนหลัก” ที่นำเข้าโดยรัฐบาล ได้แก่ วัคซีนซิโนแวค และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
“วัคซีนตัวเลือก” ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นผู้แทนในการจัดซื้อในนามภาครัฐ กับผู้ผลิตและนำเข้า ได้แก่ วัคซีนซิโนฟาร์ม
“วัคซีนทางเลือก” ที่เปิดให้โรงพยาบาลเอกชน สามารถสั่งซื้อเพื่อนำมาฉีดให้บริการกับประชาชนทั่วไปที่สนใจและมีกำลังทรัพย์ในการจ่ายเงินเอง โดยผู้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาครัฐในการดำเนินการสั่งซื้อคือ “องค์การเภสัชกรรม” (อภ.)
ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้ คนไทยได้ฉีดวัคซีนแล้ว 3 ยี่ห้อได้แก่ วัคซีนซิโนแวค วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และวัคซีนซิโนฟาร์ม
ส่วนวัคซีนทางเลือกที่ผ่านการขึ้นทะเบียนแล้ว ได้แก่ “วัคซีนโมเดอร์นา” นั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการสั่งซื้อและจะนำเข้ามาฉีดให้คนไทยได้ในไตรมาส 4 ซึ่งหลายคนสงสัยว่า ทำไมถึงเข้ามาล่าช้า เมื่อเทียบกับวัคซีนอื่นๆ ทั้งๆที่ภาคเอกชน น่าจะดำเนินการนำเข้าและฉีดให้บริการได้อย่างรวดเร็ว
ปัญหาคืออะไร ติดขัดที่ตรงไหน ทำไมจึงล่าช้า คำถามต่างๆ จึงเกิดขึ้นมากมาย
เพราะ “วัคซีนทางเลือก” เป็นวัคซีนที่โรงพยาบาลเอกชนเป็นผู้จัดซื้อเอง และต้องไม่ใช่วัคซีนบริษัทเดียวกับที่รัฐบาลจัดซื้อเพื่อฉีดให้ประชาชนฟรี การสั่งซื้อของโรงพยาบาลเอกชนจะต้องเป็นไปในนามบริษัทที่จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว
และเป็นการสั่งซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในนามตัวแทนของรัฐบาล ตามเงื่อนไขการขายรัฐต่อรัฐของผู้ผลิตวัคซีน ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินการนำเข้าวัคซีนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับอย.แล้ว ก่อนที่จะจัดสรรให้กับโรงพยาบาลเอกชนตามโควต้าที่กำหนด
เหตุผลที่ “องค์การเภสัชกรรม” จะต้องเป็นตัวแทนสั่งซื้อวัคซีนให้กับโรงพยาบาลเอกชน เพราะองค์การเภสัชกรรมเป็นหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่จัดซื้อ จัดหา ยาและเวชภัณฑ์ให้ประเทศโดยตรง ดังนั้นอภ. จึงต้องอำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชน
อีกทั้งบริษัทผู้ผลิตวัคซีน มีนโยบายกำหนดให้คู่สัญญาต้องเป็นภาครัฐ สำหรับวัคซีนที่มีทะเบียนให้ใช้กรณีฉุกเฉินเท่านั้น
ไขปมร้อน ร่างสัญญาวัคซีน “โมเดอร์นา” ถึงมืออัยการสูงสุดแล้วบ่ายวันนี้
พุ่งไม่หยุด ยอดโควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 6,230 ราย เสียชีวิต 41 คน
องค์การเภสัชกรรมจึงเหมือนเป็น “คนกลาง” ที่ต้องประสานสิบทิศ เริ่มตั้งแต่ รวบรวมจำนวนวัคซีนทางเลือกที่ภาคเอกชนต้องการ เพื่อแจ้งต่อบริษัทผู้ผลิต พร้อมจัดทำเอกสารและข้อตกลงทางกฎหมาย หรือร่างสัญญาข้อตกลงการจัดหาผลิตภัณฑ์ (Supply Agreement) ตามข้อกฎหมาย
ซึ่งอภ.เองยืนยันว่า ไม่ได้ล่าช้าในการดำเนินการ โดยทำงานเชิงรุก เริ่มตั้งแต่
25 ก.พ. 2564 ติดต่อแสดงความจำนงสั่งซื้อวัคซีนกับบริษัท โมเดอร์นาฯ เพื่อให้ได้รับวัคซีนภายในเดือนมิ.ย. 2564
28 ก.พ. 2564 บ. โมเดอร์นาฯ แจ้งกลับ ว่าจัดส่งได้เร็วสุดในไตรมาส 1/2565
1 เม.ย. 2564 สอบถามเพิ่มเติม เพื่อหาตัวแทนนำเข้าอื่นๆ
15 พ.ค. 2564 ซิลลิค ฟาร์มา แถลงยืนยันต้องจัดซื้อผ่านตัวแทนภาครัฐเท่านั้น พร้อมเจรจรนำเข้าเร็วขึ้นเป็นไตรมาส 4
ไทม์ไลน์ วัคซีนโมเดอร์นา
การทำงานของอภ. จึงต้องเดินคู่ขนาน ทั้งประสานฝ่ายซิลลิค ฟาร์มา บริษัทตัวแทนวัคซีนโมเดอร์นา ในเมืองไทย ในการนำเข้าวัคซีน โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้
พ.ค. 2564 - อย. ขึ้นทะเบียนวัคซีนโมเดอร์นา IC 6/64 (NBC) ในวันที่ 13 พ.ค. 2564
มิ.ย. 2564 - จัดทำร่างสัญญา Supply Agreement เพื่อนำเสนอต่ออัยการสูงสุด
- ประชุมร่วมคณะกรรมการเพื่ออนุมัติ ร่างสัญญา Supply Agreement
ก.ค. 2564 - นำเสนอร่างสัญญา Supply Agreement ให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ
ส.ค. 2564 - ลงนามสัญญา Supply Agreement กับบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด
ไตรมาส 4 - นำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา ลอตแรก
อีกฟากอภ. ประสานกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนซึ่งมีสมาชิกราว 390 โรงพยาบาล ในการสั่งจองวัคซีน รวมถึงการลงนามสัญญาซื้อและจ่ายเงิน โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้
มิ.ย. 2564 - รพ.เอกชนเปิดให้จองวัคซีนโมเดอร์นา
ก.ค. 2564 - รพ.เอกชนต้องยืนยันยอดจองวัคซีน และแจ้งจำนวนการจัดสรรแต่ละราย - อภ.กับรพ.เอกชนลงนามสัญญาซื้อขายและเงื่อนไขต่างๆ
- รพ.เอกชนชำระเงินค่าวัคซีนแบบ 100% ให้กับอภ.
ไตรมาส 4 - รับวัคซีน “โมเดอร์นา” ลอตแรก
ขณะที่อภ. เคาะราคาขายวัคซีนโมเดอร์นา ให้กับโรงพยาบาลเอกชนในราคาโดสละ 1,100 บาทรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขนส่ง และค่าประกันภัยรายบุคคล ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนจะต้องกำหนดราคากลางค่าบริการฉีดที่เป็นอัตราเดียวกันทุกโรงพยาบาล
และที่ประชุมสมาคมโรงพยาบาลเอกชนที่ประชุมร่วมกันล่าสุด ณ วันที่ 1 ก.ค. 2564 กำหนดให้เก็บค่าบริการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาโดสละ 1,650 บาท หรือ 3,300 บาทต่อ 2 โดส โดยสามารถจองและวางมัดจำได้ทันที
ส่วนบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด จะทยอยจัดส่งวัคซีนโมเดอร์นางวดแรกในไตรมาส 4/2564 จำนวน 3.9 ล้านโดส และงวดที่ 2 ในไตรมาส 1/2565 จำนวน 1.1 ล้านโดส
แม้ล่าสุดร่างสัญญา Supply Agreement จะส่งถึงอัยการสูงสุดแล้ว และการเซ็นสัญญาจะมีขึ้นในเดือนส.ค. 2564 และไทม์ไลน์ยัง ระบุว่า คนไทยจะได้รับวัคซีนทางเลือกพร้อมฉีดในไตรมาส 4 นี้
แต่ยังต้องลุ้นต่อไปว่า คนไทยจะได้ฉีดวัคซีน "โมเดอร์นา" ในไตรมาส 4 นี้ ชัวร์หรือมั่วนิ่ม!