นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้(5 ก.ค.64)ช่วงหนึ่งว่า วันนี้ กทม.พบผู้ป่วยสูงสุด จำนวน 1,729 ราย มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง 117 คลัสเตอร์ จำนวนเขตอยู่ที่ 46 เขต จาก 50 เขต โดยมีกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุดอยู่ที่ 100 แห่ง และกลุ่มที่เฝ้าระวังคือไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ใน 14 วัน จำนวน 17 แห่ง และมีคลัสเตอร์ที่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ตั้งแต่ 28 วันขึ้นไปจำนวน 27 แห่ง
พบ 7 คลัสเตอร์ใหม่ กระจายใน 5 จังหวัด
ส่วนการระบาดในจังหวัดอื่นๆ พบคลัสเตอร์ 7 ใหม่ กระจาย 5 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อรวม 324 ราย ประกอบด้วย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า คลัสเตอร์ที่ตลาดที่สามารถเกิดซ้ำได้ ซึ่งทางคณะกรรมวิชาการหรือทางประเทศสิงค์โปร์เคยพูดว่าโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว การที่จะเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์คงเป็นไปได้ยาก แต่ต้องเน้นว่าหากพบผู้ติดเชื้อจะสามารถควบคุมให้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้อย่างไร
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศปก.ศบค. ได้รับทราบความต้องการเตียงที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับผู้ป่วยสีเขียวต้องปรับให้เป็นระบบการรักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation และระบบการรักษาตัวในชุมชน ซึ่งทางผู้ว่าราชการ กทม.ได้สั่งการสร้างสถานที่แยกกักในชุมชน เพิ่มเติมอีก 20 แห่ง และให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนมาตรการการปรับเพิ่มเตียงสีเหลือง และสีแดง นั้น ได้มีการปรับวอร์ดที่อยู่ในโรงพยาบาลให้มาใช้กับผู้ป่วยโควิดมากขึ้น
"ตอนนี้จะปรับวอร์ดที่อยู่ในโรงพยาบาล คนไข้ที่ไม่ใช่โควิด ขอให้ถ้ารอได้รอไปก่อน อย่าเพิ่งแอดมิดเดี๋ยวมีการติดเชื้อ เอาผู้ป่วยที่เป็นโควิดที่เป็นสีเหลือง เข้าไปอยู่ในวอร์ดถึงแม้จะไม่พร้อมทั้งหมด แต่ยังดีกว่าไปอยู่ในโรงพยาบาลสนาม นี่เป็นมาตรการระยะสั้นที่จะเพิ่มเตียงสีเหลือง สีแดงให้มากที่สุด"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นพ.ทวีศิลป์ ยอมรับว่า สายพันธุ์ที่แพร่ระบาดในตอนนี้ คือ เดลต้า ซึ่งพบในหลายประเทศ และส่งผลให้ภาระดูแลโรคหนึ่งคนต้องใช้เวลา 14 วัน ซึ่งหลักการดูแลผู้ป่วยจากที่เคยติดเชื้อในตัวเลขหลักร้อยหลักพันต้องเปลี่ยนไป
ภูเก็ตแซนบ็อกซ์เจอผู้ป่วยโควิดวันละ 2-7 ราย
สำหรับการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้วพบคนไทยติดเชื้อโควิดในพื้นที่จะมีการทบทวนหรือไม่นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทาง ผอ.ศปก.ศบค. ได้เทเลคอนเฟอร์เรนซ์กับผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเมื่อเช้านี้ ซึ่งได้รับรายงานการติดเชื้อในภูเก็ต วันที่ 1 ก.ค.พบผู้ติดเชื้อ 4 ราย วันที่ 2 ก.ค.พบผู้ติดเชื้อ 7 ราย วันที่ 3 ก.ค.พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย วันที่ 4 ก.ค.พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย ตัวเลขไม่ได้สูงขึ้น และผู้ที่รักษาตัวโรงพยาบาล ณ วันที่ 4 ก.ค. เพียง 48 ราย
และตั้งแต่วันที่ 1-4 ก.ค. มีนักท่องเที่ยวเข้าไปในภูเก็ตแล้ว 1,893 ราย โดยเป็นต่างชาติ 1,416 ราย เป็นคนไทย 477 ราย มีการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 1,764 ราย รอผลอีก 129 ราย
ส่วนมาตรการดูแล คนไทยที่จะเข้าไปที่ภูเก็ตนั้น ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตได้ออกมาตรการเข้มงวดว่าจะต้องได้รับวัคซีน 2 เข็มจึงจะสามารถเดินทางเข้าภูเก็ตได้
"ตอนนี้เป็นช่วงทดสอบกับจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นเกาะสามารถควบคุมการเข้าออกได้ ความสะดวกสบายก็ขอเป็นนักท่องเที่ยวก่อน ความไม่สะดวกไม่สบายกับพี่น้องคนไทยก็ขอให้เข้าใจกัน เพื่อเราจะได้ดูว่าโมเดลแบบนี้เราจะขับเคลื่อนต่อได้หรือไม่ ถ้าทำได้ดีสมุยรออยู่ พงันรออยู่ ที่เราจะได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมา"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว