จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 WHA ได้เป็นส่วนหนึ่งเพื่อพลิกฟื้นวิกฤติของประเทศ โดยนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) WHA Group ได้ประกาศให้พื้นที่คลังสินค้าของ WHA Mega Logistics Center จ.สมุทรปราการ พื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ขนาด 1,200 เตียง
โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับผู้ป่วยประเภทที่ไม่มีอาการ และมีอาการน้อย พร้อมอำนวยความสะดวกทั้งสาธารณูปโภค ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ จำนวน 40 ห้อง ภายใต้ระบบความปลอดภัยที่ได้รับการดูแลจากฝ่ายปกครอง และกอ รมน อย่างใกล้ชิด และด้วยสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง
ล่าสุดโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ได้เปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ค.64 ในนาม “โรงพยาบาลสนามสมุทรปราการรวมใจ 5 WHA”ขนาด 1,200 เตียง ได้เปิดให้บริการแล้ว
พร้อมมีแผนใช้อาคาร A ตั้งโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง ที่ อาคารคลังสินค้า โครงการ WHA Mega Logistic Center Chonlaharnpi จ.สมุทรปราการ
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขขอบคุณบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่สนับสนุนพื้นที่อาคารคลังสินค้า อาคาร C และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ หน่วยราชการ และภาคเอกชนในการจัดตั้งและสนับสนุนอุปกรณ์โรงพยาบาลสนาม ขนาด 1,200 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิด-19กลุ่มสีเขียวในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพฯและปริมณฑล
โดยมีโรงพยาบาลสมุทรปราการและโรงพยาบาลชุมชนในจังหวัด จัดบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนแล้วหมุนเวียนปฏิบัติงานประมาณ 40 คนต่อวัน
นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนให้ใช้พื้นที่อาคาร A เพื่อเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่รับผู้ป่วยที่มีอาการในกลุ่มสีเหลือง จึงมอบให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเข้าไปวางระบบ
โรงพยาบาลสนามทั้ง 2 แห่งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลดความแออัดในการบริหารจัดการเตียงในโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีแดงที่มีอาการหนักได้เพิ่มมากขึ้น
“รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะให้การรักษาพยาบาลและดูแลผู้ติดเชื้อให้ถึงมือหมอ และได้รับยาโดยเร็วที่สุด ขอยืนยันว่าขณะนี้ ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์การแพทย์มีเพียงพอที่จะดูแลผู้ป่วย สิ่งต้องการที่สุดคือความร่วมมือร่วมใจของประชาชนที่จะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ” นายอนุทินกล่าว
นอกจากนี้ในขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงคมนาคมได้เร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่เทียบเท่าโรงพยาบาลบุษราคัม
โดยใช้อาคารแซทเทิลไลท์ 1 ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขนาด 5,000 เตียง เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเหลืองได้เพิ่มมากขึ้น
สำคัญที่สุดคือจะเร่งทำการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้สูงอายุและในกลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังให้ได้มากที่สุด ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต