สืบเนื่องจากปัญหาสภาพการจราจรและความแออัดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ กรุงเทพมหานคร มีความหนาแน่นในช่วงเช้า 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลัก 3 ประการ คือ
1. การรับลงทะเบียน on-site ผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมาตั้งแต่เช้า และมาพร้อมกับผู้ติดตามในบางรายอาจจะมีผู้ติดตามมามากกว่า 1 คน เนื่องจากผู้สูงอายุบางรายเคลื่อนไหวไม่สะดวกหรือไม่สามารถช่วยตนเองได้ และมักจะเดินทางมาที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อด้วยพาหนะส่วนบุคคล ส่งผลให้มีความแออัดหน้าประตู 1 ค่อนข้างมาก
2. มีการรับลงทะเบียนหน้างานของหมอพร้อม สำหรับคนอายุ 60 ปีขึ้นไปและ 7 กลุ่มโรค ซึ่งกลุ่มนี้จะไม่ได้มีการนัดมาก่อนและมีจำนวนมาก
3.มีฝนตกในเขตกรุงเทพมหานครในหลายจุด รวมถึงบริเวณศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ส่งผลให้การจราจรค่อนข้างติดขัด
จากปัญหาดังกล่าว กรมการแพทย์ ได้มีการประชุมระหว่างผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งแก้ไข ซึ่งปัจจุบัน ปัญหาต่าง ๆ ได้คลี่คลายไปเกือบหมดแล้ว ได้แก่
1. ประตู 1 มีผู้สูงอายุเบาบางลง และไม่แออัดทั้งภายนอกภายในอาคารศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยได้มีการประชาสัมพันธ์ให้มีผู้ติดตามผู้สูงอายุเพียง 1 คน เพื่อลดความแออัดและลดการติดเชื้อ
2. การรับลงทะเบียนของหมอพร้อม ได้ประกาศให้มีการฉีดวัคซีนโควิด 19 ผ่าน call center หมายเลขโทรศัพท์ 0 2792 2333 อย่างเดียวเท่านั้น ทำให้จะไม่มีการลงทะเบียนหน้างานอีกแล้ว นอกจาก ผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไป
3. ขณะนี้ฝนได้หยุดตกแล้ว ทำให้การจารจรเบาบางลง รวมทั้งการรถไฟได้นำเต้นท์ภายนอกมากางเพิ่มแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
สำหรับภายในอาคาร เนื่องจากให้คนอายุต่ำกว่า 40 ปีไม่ต้องวัดความดันด้วยความสมัครใจ ซึ่งจะลดความแออัดในส่วนของการคัดกรองในโซนด้านหน้าได้
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ยังมีปัญหาเรื่องขาดกำลังคนในส่วนการลงทะเบียนบ้าง เพราะต้องแบ่งเจ้าหน้าที่ไปอำนวยความสะดวกประชาชนที่บริเวณประตู 1 ของผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไป ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมจะจัดเจ้าหน้าที่มาช่วยเสริมให้ รวมทั้งได้มีการประชาสัมพันธ์รับสมัครอาสาสมัครวิชาชีพแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์เพิ่มเติมในการฉีดวัคซีนโควิด 19 รองรับกับปริมาณของผู้รับบริการที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร รองรับการให้บริการประชาชนวันละประมาณ 10,000 – 20,000 คน เป็นความร่วมมือระหว่างกระคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์ ซึ่งมีสถาบันโรคผิวหนัง เป็นผู้รับผิดชอบหลัก