วันที่ 12 ก.ค. 64 ฐานเศรษฐกิจ เกาะติดผลการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติ อังกฤษ กับ อิตาลี เตะที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เริ่มเตะในเวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ซึ่งนัดชิงชนะเลิศครั้งนี้ น่าสนใจสถิติที่ อิตาลีไม่ได้แชมป์ยูโรมาแล้วกว่า 53 ปี หลังจากทำได้เพียงครั้งเดียวในปี 1968 และทำสถิติไม่แพ้ใครมาแล้ว 33 เกมติดต่อกัน (ชนะ 27 เสมอ 6)
ส่วนอังกฤษเองผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศยูโรได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ และได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์
ปรากฎว่า จบครึ่งแรกอังกฤษขึ้นนำ 1-0 จากการทำประตูของลุคชอว์ ในนาทีที่ 2 จากจังหวะเปิดบอลจากกราบขวาของทริปเปียร์ ไปเข้าทางชอว์ที่วิ่งเข้ามายิงไม่เหลือ
ถือเป็นประตูแรกในการเล่นให้ทีมชาติของลุคชอว์ และยังเป็นประตูที่ทำได้เร็วที่สุดในรอบชิงชนะเลิศของยูโรทุกครั้งที่ผ่านมา และจบครึ่งแรกด้วยการนำของอังกฤษ 1-0
ครึ่งหลังอิตาลีบุกหนัก จนนาทีที่ 67 อิตาลีได้ประตูตีเสมอ 1-1 สำเร็จจาก Leonardo Bonucci
จากนั้นครบ 90 นาที ไม่มีทีมไหนทำประตูเพิ่มได้ต้องต่อเวลาพิเศษ จนผ่านไปอีก 30 นาที ของการต่อเวลาพิเศษรวม 120 นาที ก็ยังไม่มีทีมไหนทำประตูเพิ่มได้
จากนั้นต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกจุดโทษ และเป็นอิตาลีที่ยิงแม่นกว่าและเซฟประตูได้มากกว่า สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร2020 ได้ในที่สุด
สำหรับรายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
อังกฤษ
อิตาลี
ที่มาข้อมูล Google.com Eufa.com Livescore.com