หลังประกาศ "ล็อกดาวน์" เเละ "เคอร์ฟิว" พื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา โดยจะมีผลบังคับใช้มาตรการในวันนี้ (12 กรกฎาคม 2564 )
ภาพรวมมาตรการดังกล่าวใช้เวลา 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน ถือเป็นระยะฟักตัวของโรค หากดำเนินการร่วมกับการเร่งฉีดวัคซีนและความร่วมมือของประชาชนเชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อน่าจะลดลงใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า
พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก กล่าวว่า ในคืนนี้ทุกด่านตรวจทั้ง 88 จุดทั่วกรุงเทพฯ จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากขึ้น
หากพบว่ามีการเดินทางฝ่าฝืนในช่วงห้ามออกนอกเคหสถานก็จำเป็นต้องดำเนินคดี ทั้งนี้จะดูเจตนาของแต่ละบุคคล ว่าจงใจกระทำความผิดหรือฝ่าฝืนหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปตรวจตาในพื้นที่ชุมชนต่างๆว่ามีการมั่วสุมหรือมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดหรือไม่ หากพบก็จะดำเนินคดีอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกัน
จึงขอเตือนไปถึง 6 กลุ่มอาชีพที่ได้รับการยกเว้น ขอให้เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ และหนังสือรับรองของต้นสังกัด เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจ
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกล่าวถึงผลการปฏิบัติของการตั้งด่านตรวจสกัดการเดินทางข้ามจังหวัดและการเดินทางข้ามจังหวัด และการตรวจสอบไม่ให้เดินทางออกนอกเคหสถานในคืนแรก ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน โดยมีการตั้งด่าน 88 จุด ทั่วกรุงเทพมหานคร
พบว่ามีรถผ่านด่านในช่วงเวลาดังกล่าว 548 คัน มีการตรวจคัดกรองประชาชน 739 คน ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากยังเป็นคืนแรกที่เริ่มมีการบังคับใช้กฎหมาย
พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวอีกว่า ประชาชนที่เดินทางส่วนใหญ่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าช่วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน เริ่มบังคับใช้วันแรกในคืนนี้ บางคนให้เหตุผลว่าที่เดินทางเนื่องจากมีความจำเป็น หรือยังไม่มีเอกสารที่ทางบริษัทต้นสังกัดออกให้