นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า สารสไตรีนที่หลงเหลือจากเหตุเพลิงไหม้ บริษัท หมิงตี้ จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ คาดว่ามีประมาณ 1,000 ตัน ขณะนี้ ได้ขนย้ายไปแล้วประมาณ 360 ตัน คาดว่าจะใช้เวลาในการขนย้ายอีก 7-9 วัน และบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) สามารถเผาทำลายได้ชั่วโมงละ 1 ตัน จะใช้เวลาประมาณ 40-50 วัน คพ.จะติดตามการขนย้ายและการเผาทำลายต่อไป ในส่วนของคุณภาพอากาศบริเวณใกล้เคียงบริษัท หมิงตี้ จำกัด ขณะนี้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว
สำหรับการนำสารสไตรีน ที่เหลือจากกรณีเหตุเพลิงไหม้ บริษัท หมิงตี้มากำจัดทำลายที่บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) จังหวัดสมุทรปราการ ได้มีการตรวจติดตามการเผาทำลาย ซี่งพบว่า กระบวนการเผาทำลายของเสียอันตรายจะต้องควบคุมอุณหภูมิ และระยะเวลาของไอของเสียที่เกิดจากการเผาทำลาย ให้อยู่ภายในเตาให้นานเพียงพอที่จะเผาไหม้หรือเผาทำลายได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยระบบการเผาไหม้แบบ 2 ห้องเผา ประกอบด้วย
ภายในห้องระบบปฏิบัติการ มีระบบควบคุมมลพิษ ซึ่งประกอบด้วย 1.ระบบป้องกันการเกิดสารไดออกซินในเถ้าหนัก (Bottom ash cooling system) 2.หอลดอุณหภูมิ (Partial Quench Tower) 3.ระบบฉีดปูนขาวและถ่านกัมมันต์ (Dry Lime & Activated Carbon Injection System) 4.ระบบถุงกรอง (Bag Filter House)) 5. ระบบทำความชื้นเถ้าเบา (Fly ash moisturizer) 6. ระบบกำจัดสารประกอบไนโตรเจน (Selective Catalytic Reduction) 7. ระบบการลดก๊าซที่มีกลิ่นโดยการดูดซับ (Adsorption) และ 8. ระบบลดไอกรดด้วยการดูดซึม (Packed Scrubber Tower) ซึ่งมลพิษทั้งหมดจะถูกกำจัด เหลือแต่ไอน้ำที่ปล่อยออกจากปล่องสู่สิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ทางโรงงานยังมีระบบการตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากปล่องโรงงานอุตสาหกรรมแบบต่อเนื่อง (Continuous Emission Monitoring System: CEMS) และส่งข้อมูลออนไลน์ไปยังนิคมอุตสาหกรรมและกรมโรงงานอุตสาหกรรม