ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 13 ก.ค. 64 เห็นชอบ "มาตรการเยียวยา" รอบล่าสุด ให้กับผู้ประกันตน (ลูกจ้าง) และผู้ประกอบการ (นายจ้าง) ทั้งในและนอกระบบประกันสังคม
ที่รับผลกระทบจากข้อกำหนดของศบค. ฉบับที่ 27 ในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือ พื้นที่สูงสุดและเข้มงวด รวม 10 จังหวัด
ซึ่งมีชื่อของมาตรการเยียวยาอย่างเป็นทางการว่า "มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการอันเนื่องมาจากข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27)"
ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบ ข้อมูลจากมติครม. พบว่า นอกจากผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบประกันสังคมจะได้รับการเยียวยาแล้ว พบว่าร้านค้าที่อยู่ในโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ ก็ได้รับสิทธิ์เยียวยารอบล่าสุดด้วยเช่นกัน โดยมีรายละะเอียดดังนี้
มติครม. ระบุว่า กรณีที่เป็นผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ภายใต้ "โครงการคนละครึ่ง" และ " โครงการเราชนะ" ในปัจจุบันที่ผ่านการตรวจสอบคัดกรองแล้วและไม่เป็นผู้ถูกตัดสิทธิ์จากกระทรวงการคลัง
จะขยายการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” จากเดิมที่กำหนดให้ความช่วยเหลือเฉพาะผู้ประกอบการในหมวดร้านอาหารและเครื่องดื่ม ขยายเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
โดยให้ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากไม่มีลูกจ้าง ให้ดำเนินการ ดังนี้
สำหรับผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่มีลูกจ้างแต่ยังไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ดำเนินการดังนี้
เพื่อให้สามารถได้รับความช่วยเหลือ ดังนี้
นายจ้าง
ลูกจ้าง
ด้าน นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม ได้ให้ความสำคัญแก่แรงงานอิสระ ทั้งการปรับปรุงกฎหมายเพื่อเปิดโอกาสให้ แรงงานอิสระหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีแต่ไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ สามารถสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ได้
สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถสมัครง่าย ๆ ด้วยตนเองผ่านมือถือที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือ ช่องทางดังนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/ จังหวัด/ สาขา ทั่วประเทศ หรือที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล และ สำนักงานประกันสังคม