ฐานเศรษฐกิจ เกาะติดประเด็น "การฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ" หรือ "ฉีดวัคซีนสลับชนิด" 2 สูตร คือ ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า และวิธีที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า+แอสตร้าเซนเนก้า หลังจากนายกรัฐมนตรี สั่งการในที่ประชุมครม. ให้กลับไปทบทวน ซึ่งล่าสุดที่กระทรวงสาธารณสุข จะมีการเสนอต่อที่ประชุมศบค. ในวันที่ 16 ก.ค. นี
วันที่ 15 ก.ค. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวิชาการ ภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ได้มีการประชุมถึงแนวทางการให้วัคซีนสลับชนิดหรือฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อกันอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลได้ขอให้พิจารณาประเด็นนี้อย่างรอบคอบ
ภายหลังมีคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ตลอดจนการประชุมหารือของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในที่ประชุมยังยืนยันมติเดิมในเรื่องการให้วัคซีนสลับชนิดที่สามารถดำเนินการได้
โดยจะมีการนำเสนออีกครั้งในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) ด้วย
“พอผู้ใหญ่ทักมา ว่าให้เราดูข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ เพราะ WHO ออกมาพูด ซึ่งคณะกรรมการวิชาการ ก็นำเสนอต่อที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข และบ่ายนี้ ก็ประชุม ศบค.ของกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังมีมติในทิศทางเดิม คือควรได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า โดยห่างกัน 3-4 สัปดาห์ จะเสนอ ศบค.พรุ่งนี้ คาดว่าจากการพิจารณาอย่างรอบคอบ หลายคณะกรรมการที่เห็นชอบตรงกันนี้ จะเริ่มดำเนินการได้ต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป” นพ.โสภณ กล่าว
ส่วนที่หน่วยบริการวัคซีนบางแห่ง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด มีการฉีดวัคซีนสลับชนิดไปแล้วนั้น นพ.โสภณ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สื่อสารไปแล้วว่าแนวทางดังกล่าวไม่ได้ขัดกับมติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพียงแต่เมื่อนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้มีการพิจารณาข้อมูลให้รอบคอบอีกครั้ง ซึ่งภายหลังคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ก็ยังคงยืนยันแนวทางการฉีดวัคซีนตามมติเดิม
“ดังนั้นเมื่อมีการนำมติดังกล่าวเข้าที่ประชุม ศบค.พรุ่งนี้ หากนายกฯ เห็นชอบแล้ว กระทรวงฯ จะแจ้งอย่างเป็นทางการอีกที ส่วนหน่วยที่ดำเนินการไปแล้ว หรือดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ก็ถือว่าดำเนินการตรงกับที่คณะกรรมการโรคติดต่อได้ให้มติไว้ตั้งแต่แรก” นพ.โสภณกล่าว
สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้น คณะกรรมการวิชาการได้พิจารณาแล้ว ยังใช้ได้ 2 วิธี คือ
แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าผู้สูงอายุจะไม่สามารถฉีดวัคซีนซิโนแวคได้ เพราะขณะนี้ไม่มีข้อจำกัดนั้นแล้ว เป็นเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนในแต่ละพื้นที่ด้วย