นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้ประชาชนสามารถใช้ชุดทดสอบแอนติเจน (Antigen Test Kit) เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด 19 ได้ด้วยตนเองนั้น พบว่า มีประชาชนนำชุดทดสอบแอนติบอดี (Antibody Test Kit) มาตรวจหาเชื้อ ซึ่งเป็นการใช้ที่ผิดประเภท ซึ่งชุดทดสอบแอนติบอดียังไม่มีการอนุญาตให้ประชาชนนำมาตรวจเอง ดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงขอให้ข้อมูล ดังนี้
ชุดทดสอบแอนติเจนใช้ตรวจหาโปรตีนของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด 19 เป็นชุดทดสอบที่อนุญาตให้ประชาชน ใช้เพื่อตรวจคัดกรองเบื้องต้น โดยเก็บตัวอย่างทางจมูกหรือปากหรือน้ำลาย ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะกำหนดตัวอย่าง ที่ใช้ตรวจไม่เหมือนกัน ให้อ่านในเอกสารกำกับที่มาพร้อมกับชุดทดสอบ โดยตัวตลับทดสอบจะมีแถบทดสอบ (ตัว T) และแถบควบคุม (ตัว C) ในผู้มีความเสี่ยงสูง หากผลทดสอบเป็นลบ อาจอยู่ในระยะฟักตัว ให้กักตัวที่บ้านตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และให้ตรวจซ้ำอีกครั้งประมาณ 3- 5 วัน หรือหากมีอาการให้ตรวจทันที กรณีที่พบผลบวกให้แจ้งหน่วยงานบริการใกล้บ้านที่ติดต่อได้และแยกกักตัวเอง เพื่อลดการแพร่เชื้อ
สำหรับชุดทดสอบแอนติบอดี เป็นชุดทดสอบหาภูมิตอบสนองต่อไวรัส ซึ่งการตรวจและแปลผล ต้องทำโดยบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น โดยจะเก็บตัวอย่างเลือดจากปลายนิ้วมือหรือข้อพับ หากผลเป็นบวก แสดงว่าเคยติดเชื้อหรือได้รับวัคซีน อาจจะมีหรือไม่มีอาการป่วยก็ได้ ภูมิคุ้มกันไม่ได้บ่งบอกว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 ในอนาคตได้
แต่ถ้าผลเป็นลบแสดงว่าไม่ติดเชื้อหรือมาตรวจเร็วเกินไปก่อนที่ร่างกายจะมีการสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งการตรวจแอนติบอดีจะใช้ร่วมกับการตรวจด้วยวิธี real-time RT-PCR สามารถบ่งชี้ระยะการติดเชื้อและการดำเนินของโรค เพื่อประกอบการวินิจฉัย ติดตาม รักษา ควบคุมโรค จึงเหมาะสำหรับการสำรวจทางระบาดวิทยาหรือศึกษาอัตราความชุกในชุมชน ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ไม่แนะนำในการใช้ชุดทดสอบแอนติบอดี เพื่อตรวจหาคนที่ติดโควิด 19 เพราะภูมิคุ้มกันที่พบอาจเกิดจากการฉีดวัคซีน
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้ประชาชนสามารถใช้ชุดทดสอบแอนติเจน เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด 19 ได้ด้วยตนเอง โดยประชาชนหาซื้อได้ที่คลินิก และร้านขายยาแผนปัจจุบัน หรือตามที่ อย.กำหนด ไม่แนะนำซื้อทางออนไลน์ ส่วนชุดทดสอบแอนติบอดีกระทรวงสาธรณสุขยังไม่อนุญาตให้ประชาชนนำมาตรวจได้เอง ทั้งนี้ชุดทดสอบต้องผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย. แล้วเท่านั้น ซึ่งสามารถดูรายชื่อชุดทดสอบได้ที่เว็บไซต์ของ อย.