จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติมาตรการเยียวยาโควิด สำหรับนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่สีแดงเข้มจำนวน 10 จังหวัด โดยให้นายจ้างและผู้ประกันตนลงทะเบียน www.sso.go.th ภายในสิ้นเดือนกรกฏาคมนี้
โดยประกันสังคมกำหนดจ่ายเงินเยียวล่าสุดให้ผู้ประกันตนม.33 และ นายจ้าง รับเงินเยียวยาล่าสุด ระหว่าง 5,000 -10,000 บาท ในวันที่ 23 ก.ค.นี้เป็นต้นไป
จากนั้นเว็บไซต์ www.sso.go.th สำนักงานประกันสังคม ได้เปิดให้นายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตราของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (กรุงเทพมหานครและปริมณฑล)
ปรากฏว่าหลังจาก www.sso.go.th เปิดให้ผู้นายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ตรวจสอบสิทธิจนเว็บ “ล่ม”
ล่าสุดเว็บไซต์ www.sso.go.th ได้โพสต์ข้อความว่า “สำนักงานประกันสังคม ขอปิดปรับปรุงระบบการตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตราการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (กรุงเทพมหานครและปริมณฑล)
ขออภัยในความไม่สะดวก
เมื่อเร็วๆ นี้ นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ โฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนหลายสำนักเผยแพร่ข่าวว่า ขอให้ผู้ประกันตนรีบเช็คสิทธิประกันสังคมด่วนเพื่อรับเงินเยียวยานั้น ในเรื่องนี้ สำนักงานประกันสังคมขอชี้แจงว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 เห็นชอบมาตรการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน รวมทั้งอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัดกรุงเทพมหานคร ปริมณฑลและจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเวลา 1 เดือน โดยประเภทกิจการที่ให้ความช่วยเหลือ จากเดิม 4 สาขา เพิ่มเติมเป็น 9 สาขานั้น ความคืบหน้าของมาตรการล่าสุดสำนักงานประกันสังคมยังไม่มีการเปิดระบบให้ตรวจสอบสิทธิ เนื่องจากขั้นตอนต่อไป หลัง ครม.เห็นชอบแล้ว สำนักงานประกันสังคมจะต้องประชุมหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดรายละเอียด เงื่อนไขหลักเกณฑ์ และระยะเวลาของโครงการให้แล้วเสร็จก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อให้สามารถดำเนินการต่อไปได้
นายนันทชัย กล่าวต่อไปว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ยังไม่ได้เป็นผู้ประกันตนและไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด และประสงค์รับสิทธิ ขอให้รีบสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อจะได้รับสิทธิเยียวยาเช่นกัน โดยสามารถสมัครง่าย ๆ ด้วยตนเองผ่านมือถือที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือ ผ่านเคาเตอร์เซอร์วิส (7-11) เคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และที่เคาน์เตอร์บิ๊กซี (Big C) หรือสมัครผ่านผู้แทนเครือข่ายประกันสังคม ทั้งนี้ เมื่อสมัครแล้วสามารถจ่ายเงินสมทบได้ทันที สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา หรือสายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายนันทชัย กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้ประกันสังคมยังไม่เปิดช่องทางให้ตรวจสอบ หรือดำเนินการใด ๆ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนหารือกับสภาพัฒน์ฯ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ของโครงการให้ชัดเจน ซึ่งจะนำเข้า ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
ที่มา: สำนักงานประกันสังคม