ราชกิจจาบุกเบกษา ได้เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) เพื่อกำหนดมาตรการที่จำเป็นและเร่งด่วน เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยให้มีผลบังคับใช้วันที่ 20 ก.ค. 64 เป็นต้นไป เว้นเฉพาะมาตรการขนส่งสาธารณะตามข้อ 6 ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 21 ก.ค. 64 เป็นต้นไป
11 มาตรการเข้มควบคุมโควิด-19
1.ลดการออกนอกเคหสถานของประชาชน
ในจังหวัดที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด
2.ปรับเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด13 จังหวัด ได้แก่
กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ นราธิวาสปัตตานี ยะลา และสงขลา
3.ให้ประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดลดและจำกัดการการเดินทาง หรืองดเว้นภารกิจที่ต้องเดินทางออกนอกเคหสถาน
ยกเว้น การเดินทางในบางกรณีที่จำเป็น เช่น จัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค ยาหรือเวชภัณฑ์ พบแพทย์ การรับวัคซีนป้องกันโรคหรือมีความจำเป็น เพื่อปฏิบัติงานที่ไม่สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งได้
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ กรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือกระจายสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
4.กำหนดพื้นที่ห้ามออกนอกเคหะสถานเพิ่ม
ห้ามบุคคลใดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (13 จังหวัดตามข้อ 2)
ออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วันนับแต่ข้อกำหนดนี้ใช้บังคับ
5.ตั้งจุดตรวจ คัดกรองการเดินทาง
เฉพาะเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในเส้นทางคมนาคม เข้า-ออก ไปยังพื้นที่อื่นอย่างน้อย 14 วัน
6.การขนส่งสาธารณะ
จำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสาร
7.มาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน
เฉพาะเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ดำเนินการต่อเนื่องอย่างน้อย 14 วัน สำหรับการให้บริการดังต่อไปนี้
การจำ
สำหรับการดำเนินการของโรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านค้าทั่วไป โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้านขายาและเวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง ร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดอันจำเป็น สถานที่จำหน่ายแก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส รวมทั้งบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง (delivery online) ยังคงเปิดดำเนินการได้ ตามความจำเป็น ให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
8.ห้ามจัดกิจกรรม
รวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 5 คน
9.ให้หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งขั้นสูงสุดเต็มจำนวน
10.ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และศูนย์ปฏิบัติการต่าง ๆ ภายใต้ ศบค.
พิจารณามาตรการและเร่งรัด การปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจอย่างเข้มข้น เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่รวดเร็วและชัดเจนเป็นรูปธรรม
11.การบังคับใช้มาตรการตามข้อกำหนด
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและกำกับ การปฏิบัติตามมาตรการ
ข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง
อย่างน้อย 14 วัน (จนถึงวันที่ 2 ส.ค. 2564)
คลิก : อ่านราชกิจจานุเบกษา
ที่มา : ศูนย์ข้อมูล COVID-19