รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความว่า
มีการทำนิวไฮจำนวนผู้เสียชีวิตที่ 141 โดยมีผู้ป่วยอาการรุนแรง/ใส่เครื่องช่วยหายใจ 3,454/839 ตามลำดับ วันนี้ทำนิวไฮจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่ 11,397 โดยเพิ่ม 13% และเป็นการตรวจเชิงรุกราวหนึ่งในสี่ แม้ว่าผู้เสียชีวิตลดลงเป็น 101 (ค่านี้มีตัวกวนเยอะ) แต่ผู้ป่วยอาการรุนแรง/ใส่เครื่องช่วยหายใจยังเพิ่มต่อในอัตราที่ช้าลงเป็น 3,464/846 โดยเพิ่ม 2.9/8.3%
ถ้าเป็นเช่นนี้โดยตัดปัจจัยผู้ที่รอการตรวจและรอการเข้าโรงพยาบาลที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาก (ภาคการแพทย์ทำไม่ค่อยไหวแล้ว) น่าจะยังมีตัวเลขทั้งหมดในวันต่อๆ ไปที่จะเพิ่มในอัตราที่ช้าลง โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการรุนแรง/ใส่เครื่องช่วยหายใจ แสดงว่ามาตรการทางกฎหมาย (ล็อกดาวน์) งวดนี้ในระลอกหนึ่ง (28 มิ.ย.) และในระลอกสอง (12 ก.ค.) ได้ผลอย่างช้าๆ แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับภาคการแพทย์ เพราะเส้นด้ายสายใยการโถมสู้งานของบุคลากรและการรอคอยของผู้ป่วยโรคอื่นใกล้จะขาดเต็มที (ไม่นับคนของเราที่ต้องล้มไปชั่วคราวเพราะป่วยด้วย ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ พยาบาล พนักงานเปล พนักงานขับรถ ฯลฯ เห็นไหมว่าวัคซีนเข็มสามที่ดีกว่าเดิม รวมถึงเข็มที่สี่ถ้าเรายังรอดกันถึงวันนั้น มีคุณค่าต่อพวกเราและต่อมาตรการรับมือของประเทศอย่างไร) มารอดูกันว่ามาตรการเสริมโดยเพิ่มจังหวัดเสี่ยงเข้ามาอีกสามจังหวัด และปิดโน่นนี่นั่นเพิ่มอีกเล็กน้อย จะช่วยชะโลมใจคนใกล้สิ้นลมฮึดอย่างพวกเราได้มากเพียงใด
ช่วงนี้คงเห็นความขาดแคลนของเครื่องไฮโฟลว์ PPE และอื่นๆ ในโรงพยาบาลที่สายป่านสั้น รวมไปถึงการขาดแคลนโลงศพ เตาเผา ถังออกซิเจน เครื่องผลิตออกซิเจน และสิ่งจำเป็นในการเตรียมรับมือทางการแพทย์และทางด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
ผมอยากเห็นทั้ง ศบค.และรัฐบาล ออกมาพูดให้ชัดเจนว่ามีการเตรียมสายโซ่อุปทาน (chain of supply) ยุทธปัจจัย (ไว้สู้โควิด) นี้อย่างไร เราจะไม่โกลาหลเหมือนครั้งวิกฤตหน้ากากอนามัยในระลอกแรกอีกใช่ไหม เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นความเชื่อมั่นในฝ่ายนำก็จะลดน้อยถอยลงไปกว่าเดิมอีก (ไม่รู้ว่าตอนนี้มาตรวัดอยู่ระดับใดแล้ว) ฝ่ายตามอย่างพวกเราก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานกันต่อไป แม้เริ่มมีคนพูดถึงการเปลี่ยนม้าศึกกลางคันกันมากขึ้น
หมอนิธิพัฒน์ ระบุอีกว่า หวนไปนึกถึงเนื้อเพลงสากล “If We Hold on Together หากเราจับมือกันมั่น” ประกอบภาพยนต์เรื่อง “The Land Before Time” ขับร้องโดย Diana Ross ที่ว่า
Live believing จุดประกายศรัทธาให้เจิดจ้า
Dreams are for weaving ฝันใฝ่ควรค่าแห่งการถักทอ
Wonders are waiting to start ปฐมบทแห่งอัศจรรย์ไม่เกินเอื้อม
สำหรับมาตรการ สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (covid-19) ล่าสุดวันที่ 19 กรกฏาคม 64 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมตัวเลขจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นรวม 11,784 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,684 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 100 ราย ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 386,307 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 81 ราย หายป่วยเพิ่ม 5,741 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 262,225 ราย