"ยิ่งใช้ยิ่งได้"เช็คสิทธิ ล่าสุดคลังปรับเงื่อนไขใหม่ 

24 ก.ค. 2564 | 04:15 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2564 | 11:16 น.

เช็คสิทธิ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ล่าสุด กระทรวงการคลังปรับเงื่อนไขใหม่ ขยายเวลาซื้อสินค้าแลกสิทธิรับ e-Voucher ถึง 30 พ.ย. 64 พร้อมเพิ่มวงเงินใช้จ่ายต่อวันจาก 5,000 บาท เป็น 10,000 บาท ลดจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการเหลือ 1.4 ล้านสิทธิ

"ยิ่งใช้ยิ่งได้" โครงการเพื่อกระตุ้นการบริโภค ผู้มีกำลังซื้อ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ระยะเวลาโครงการ 1 ก.ค. 2564 –31 ธ.ค. 2564 ล่าสุดกระทรวงการคลัง ได้ปรับเงื่อนไขใหม่

โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้พิจารณาปรับปรุงรายละเอียดเงื่อนไขของโครงการ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน และเร่งให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามเป้าหมายของโครงการ ดังนี้

  1. ขยายระยะเวลาการซื้อสินค้าหรือบริการที่จะได้รับ e-Voucher จากเดิมถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 เป็นถึงวันที่ 31 พฤศจิกายน 2564 
  2. เพิ่มวงเงินการใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณ e-Voucher จากเดิม 5,000 บาท เป็นสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อคนต่อวัน โดยยังจำกัดวงเงินใช้จ่ายสูงสุด ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน 
  3. ปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ จากเดิม 4 ล้านสิทธิ์ เป็น 1.4 ล้านสิทธิ โดยกรอบวงเงินโครงการ ฯ ลดลงจาก 28,000 ล้านบาท เป็น 9,800 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 18,200 ล้านบาท 

โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่ปรับลดเหลือ 1.4 ล้านสิทธิ ขณะนี้เหลืออีก 940,668 สิทธิ สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com โดยประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 นี้

เงื่อนไขเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สำหรับประชาชน

  • เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน
  • มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
  • ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
  • ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน)
  • ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส3
  • ประชาชนสามารถเปลี่ยนแปลงสิทธิได้ 1 ครั้ง และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงการได้อีก
  • ก่อนการใช้สิทธิครั้งแรก ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน
  • การซื้อ-ขายสินค้าและ/หรือบริการ ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระสินค้าและ/หรือบริการกันแบบพบหน้า (face-to-face) โดยไม่มีการดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีใด
  • แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” จะสามารถใช้งานได้ ระหว่างเวลา 6.00 – 23.00 น. ของทุกวัน
  • ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการฯ กระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดต่อมาตรการและ/หรือโครงการของรัฐ หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการ/โครงการใด ๆ ของรัฐ