จากเพจโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ เล่าถึงภาระหนักที่ทีมบุคลากรทางการแพทย์ พบเจอตลอด 109 วันที่เปิดรับผู้ป่วย โดยมีเนื้อหาดังนี้
วันพุธที่ 28 ก.ค.วันที่ 109 ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ วันที่มีผู้ป่วยโควิดรายใหม่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 16,533 คน
วันนี้ที่ศูนย์รับวัคซีน ยิมเนเซียม 4 เราจัดกิจกรรมรับวัคซีนถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยฉีดวัคซีน SV + AZ ให้กับผู้ที่ขาดโอกาสเข้าถึงวัคซีนจำนวนกว่า 2000 คน
ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป เราจะเปิดยิม 4 เพื่อฉีด Astrazenecaให้กับผู้ที่จองวัคซีนไว้ 110,000 คน ในแอป TUH ทุกวันต่อเนื่องไปโดยไม่มีวันหยุดจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม วันละไม่น้อยกว่า 3,000 คน เราเชื่ออยู่แล้วว่าพวกเรารบไม่ชนะในสงครามคราวนี้ และนี่คงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พวกเราสูญเสียน้อยที่สุดจากนี้ไป ใครที่ยังไม่มีคิวฉีดวัคซีน มาจองคิวต่อของเดือนกันยาได้อีกนะ
วันนี้ผู้เสียชีวิตจากโควิดในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เพิ่มสูงสุดด้วยเช่นกัน มีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตรวมห้ารายในวันเดียวกัน สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ที่ รพธ ที่มาจากการ swab และตรวจเชื้อด้วย RT-PCR ในรอบวันที่ผ่านมา 201คน พบว่ามีผลเป็นบวกที่ต้องรับแอดมิดเช้านี้เลย 37คน และในจำนวนนี้ เป็นบุคลากรของรพ.ธรรมศาสตร์เองอีก 4คน เป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลสอง และบุคลากรอื่นอีกสองคน เราเองก็ถูกโจมตีภายในแนวตั้งรับของเราเองไม่ต่างจากที่อื่นๆ เหมือนกัน
อยากจะวิงวอนผู้คนที่เกี่ยวข้อง ให้เข้าใจภาระงานที่หนัก เสี่ยงและยืดเยื้อยาวนานมากว่าสามเดือน ที่เกิดในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพราะคนไข้โควิดมีมากเพิ่มขึ้นเกือบสิบเท่าภายในหนึ่งเดือน ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ที่จะรับมือมีจำนวนเท่าเดิม หรือลดน้อยไปเรื่อยๆจากการติดเชื้อหรือการถูกกักตัว ใน ER ซึ่งเป็นประตูทางเข้าหลักของโรงพยาบาล ถ้าหากมีคนไข้อาการหนัก และถูกสันนิษฐานว่าอาจจะติดเชื้อนอนรอให้ช่วยชีวิตอยู่สัก แปดรายสิบรายและไม่สามารถส่งขึ้นวอร์ดคนไข้ในเพื่อไปรักษาต่อได้ เพราะวอร์ดข้างบนก็มีคนไข้เต็มล้น ความกดดันก็จะมาอยู่ที่แพทย์และพยาบาลที่มีผลัดละสิบกว่ายี่สิบคนในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ที่จะต้องช่วยอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนรอด และถ้าถึงจุดที่แทบไม่มีที่ว่างเหลือให้เดินใน ER ไม่มีไปป์ออกซิเจนหรือไม่มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตเหลืออีก ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลก็อาจจะต้องถูกปิดชั่วคราวไปสักระยะหนึ่ง8, 12หรือ 24 ชม.อย่างที่เคยเกิดขึ้นที่รามาธิบดีหรือที่ รพ.ธรรมศาสตร์เอง จนกว่าจะใช้เวลาที่หยุดรับรายใหม่ไปนั้น เคลียร์คนไข้ใส่ tubeที่ค้างอยู่ใน ER ส่งขึ้นวอร์ดไปได้ แล้ว ERจึงจะเริ่มกลับมาเปิดรับคนไข้ใหม่ได้อีก. นี่เป็นวิกฤตการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในระบบสาธารณสุขของประเทศเรามาก่อนเลย ขอได้โปรดเข้าใจและเห็นใจพวกเราในรพ.ต่างๆเท่าๆกับที่ท่านมีความกังวลและห่วงใยชีวืตของผู้ป่วยที่ถูกส่งมายังโรงพยาบาลด้วยนะ
วันนี้ถึงจะเป็นวันหยุดราชการ แต่เราก็มาช่วยกันเร่งรัดเพิ่มศักยภาพและแก้ปัญหาให้โครงการ Home Isolation ของเรา เพื่อให้ขยายขีดความสามารถการรับผู้ป่วยออกไปอีก เพราะถ้าผู้ป่วยใหม่อยู่ในระดับหมื่นกว่าไปอีกเพียงสองสัปดาห์ ก็จะไม่มีเตียงที่ไหนเหลือเลยแม้แต่เตียงเดียว ที่จะรับผู้ป่วยโควิดรายใหม่เข้ารักษาในโรงพยาบาลอีกได้ ไม่ว่าจะเปิดโรงพยาบาลสนามใหม่อีกมากเท่าใดก็ตาม ก็เหลือแต่เพียงที่จะใช้”เตียงทิพย์”ในโครงการนี้เท่านั้นแหละ
วันนี้ พวกเราได้หารือกับท่านผวจ. และสสจ.ปทุมธานี ที่จะรับผู้ป่วยโควิดจากอำเภอคลองหลวงและลำลูกกาของปทุมธานีหลายร้อยคนที่ยังไม่สามารถหาเตียงได้ เข้าสู่โครงการ HI ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ วันพรุ่งนี้ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ในโครงการคงเพิ่มอีกมาก จากที่มีตัวเลขผู้ป่วยในโครงการสะสมอยู่มากกว่า 500 คนแล้วในวันนี้ และเป็นตัวเลขผู้ป่วยที่ยังแอคทีฟอยู่เกือบ 300 คนที่พวกเราต้องติดตามดูแลอาการผ่านแชทบอร์ด อยู่ทุกๆ วัน
ความกังวลของพวกเราในโครงการนี้ ไม่ใช่เรื่องการจัดระบบรองรับเรื่องกำลังคน เรื่องการจัดส่งอาหารหรือการดูแลติดต่อกับผู้ป่วยทั้งหมดในแต่ละวัน เรื่องเหล่านี้พวกเราช่วยกันดูแลจัดการได้ทั้งหมด แต่ที่จะเป็นปัญหาที่พวกเราอาจจะแก้ด้วยตัวเองไม่ได้ก็คือ ความพอเพียงของยาต้านไวรัส Favipilavir และการขาดแคลนของฟ้าทะลายโจร ซึ่งใช้เป็นยาช่วยแก้ปัญหาในระยะแรกที่อาการของผู้ป่วยยังไม่ปรากฏหรือไม่รุนแรง อีกสัปดาห์เดียว อาจจะมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเป็นปัญหาเรื่องใหญ่ของโครงการ Home Isolation หรือ Community Isolation ทั่วประเทศได้
มาที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งดูจะเป็นที่เดียวที่ยังพอรับผู้ป่วยโควิดรายใหม่ที่อาการไม่หนักมากเข้ามาได้บ้าง แต่ว่า ในแต่ละวัน เราก็รับผู้ป่วยผลบวกที่ swab พบจาก รพ.ธรรมศาสตร์เข้ามาโดยตรงวันละสิบกว่าคน และรับรีเฟอร์ผู้ป่วยจากวอร์ดโควิดต่างๆ ของโรงพยาบาลมาอีกรวมวันละ 30 รายอยู่แล้วนะ วันนี้ที่ รพ.สนามเรารับผู้ป่วยใหม่เข้ามาได้อีก 27ราย และส่งผู้ป่วยที่หายแล้วกลับบ้านได้ 43 ราย กับส่งผู้ป่วยที่อาการรุนแรงมากขึ้นกลับไปดูแลที่รพ.ธรรมศาสตร์อีก 4 ราย จำนวนผู้ป่วยสุทธิที่พักอยู่กับเราคืนนี้คือ 355คน นี่ยังไม่ได้นับเคส PUI ที่มากักตัวที่นี่ด้วยนะ
เราคิดว่า พวกเราทำงานหนักมากแล้วนะ แต่ว่า มันคงยังไม่หนักเพียงพอที่จะช่วยชีวิตผู้คนที่ล้มตายมากขึ้นเรื่อยๆ ไว้ได้ พวกเราจะพยายามทำให้มากขึ้นอีก จะทำจนสุดกำลังความสามารถที่เราจะทำได้ อยากจะให้พวกเราต้องสูญเสียน้อยที่สุด ในสงครามที่พวกเราไม่มีโอกาสชนะแล้วครั้งนี้