จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติมาตรการเยียวยาโควิด สำหรับผู้ประกันตน และ ผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่เชื้อโควิด 19 ระลอกเดือนเมษายนในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยเมื่อวันอังคารที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 13 จังหวัด พร้อมกับเพิ่มวงเงินเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินใช้ในมาตรการเยียวยาโควิด ในโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการ 9 กลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐจากคำสั่งล็อกดาวน์ ปิดสถานที่และกิจการ ในพื้นที่สีแดงเข้ม เป็นจำนวน 15,027.686 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1,522.99 ล้านบาท จากเดิม 13,504.696 ล้านบาท นอกจากนี้ ครม. ได้เพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มอีก 3 จังหวัด รวมพื้นที่สีแดงเข้มจำนวน 13 จังหวัด
พื้นที่สีแดงเข้มทั้ง 13 จังหวัดมีดังนี้
โดยสำนักงานประกันสังคมเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33,มาตรา39 และ มาตรา 40 เป็นเวลา 1 เดือน
เช็คสิทธิวันโอนเงินเยียวยา
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 โอนเงินให้ 9 กลุ่มอาชีพ ให้กับ 10 จังหวัดแรกก่อน คือ
คาดเริ่มโอน 6 สิงหาคม 2564 ส่วน อีก 3 จังหวัด คือชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา จะได้รับเงินเยียวยา วันที่ 15 ส.ค.64 เป็นต้นไป โดยสำนักงานประกันสังคมโอนเงินเยียวยาโควิดผ่านพร้อมเพย์ผูกบัตรประชาชนเท่านั้น
รายละเอียดผู้ประกันตนสำหรับลูกจ้าง
นายจ้าง
สำหรับผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่ “ไม่มีลูกจ้าง”
1.ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
2.ร้าน OTOP
3.ร้านค้าทั่วไป
4.ร้านค้าบริการ
5.กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่)
ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 ภายในเดือน ก.ค. นี้ เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน 9 หมวดประเภทกิจการ ดังนี้
1.ก่อสร้าง
2.ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
3.ศิลปะ บันเทิงและนันทนาการ
4.กิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ
5.ขายส่งขายปลีกและซ่อมยานยนต์
6.ขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
7.กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุนกิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์
8.กิจกรรมทางวิชาการ
9.ข้อมูลข่าวสารและสื่อสาร.
ที่มา: www.sso.go.th