วันนี้ (4 ส.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ปัญจสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางปรางค์ทิพย์ จันทร์วิสิฐศักดิ์ กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) มอบอำนาจให้ทนายความ ยื่นหนังสือร้องข้อความเป็นธรรมต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล
เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โดยหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีระบุว่า จากกรณีที่ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่แบรนด์เอเจ (AJ) ใช้สโลแกน “พระเอกตัวจริง” ที่โด่งดังมานาน ได้นำเข้ามาในราชอาณาจักร ประเภทเตาย่าง เตาปิ้ง ผลิตภัณฑ์หม้อทอดไร้น้ำมัน ผลิตภัณฑ์หม้อไฟฟ้า Electric Grill with pot แบบรุ่น Eg-002 , ผลิตภัณฑ์เตาไฟฟ้า Induction Cooker แบบรุ่น In-001B
โดยได้รับอนุญาตให้นำเข้าและผ่านด่านตามพิธีการศุลกากร ตามกฎหมายศุลกากรเรียบร้อย และชำระภาษีอากรทุกประเภทถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งบริษัท เอเจฯ หลงเชื่อถูก บุคคลที่อ้างว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการขอใบอนุญาต มอก. พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 จึงได้ว่าจ้าง ให้ดำเนินการขอใบอนุญาต จาก สมอ.
ส่วนสินค้า ที่นำเข้ามาโดยผ่านพิธีการศุลกากรอย่างถูกต้องแล้ว แต่ใบอนุญาตมอก. อยู่ระหว่างการขอ ทางบริษัท จึงได้นำสินค้ามาเก็บรักษาไว้ที่คลังสินค้าในจังหวัดสมุทรสาคร ทางเอเจไม่มีเจตนาที่จะจำหน่ายสินค้าที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาต มอก. จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ สมอ. เข้าทำการอายัดสินค้า จนกว่าได้รับใบอนุญาต มอก. ซึ่งปัจจุบันสินค้าทั้งสามรุ่นได้รับใบรับรอง มอก.อย่างถูกต้องแล้ว
แต่ต่อมาทางบริษัทได้รับจดหมายแจ้งจาก สมอ.แจ้งว่าต้องไปจ่ายค่าปรับยอดมหาศาลถึง 7,500,000 บาท (เจ็ดล้านห้าแสนบาทถ้วน) ทางบริษัทคาดไม่ถึงว่าต้องถูกปรับทั้งที่ไม่มีเจตนากระทำผิดกฎและตั้งข้อสงสัยเพราะมูลค่าสินค้าที่นำเข้ามีแค่ 2 ล้านกว่าบาท จึงได้ปรึกษาทนายความ ได้ความว่าคงจะมีการผิดพลาดในการพิจารณายอดค่าปรับ หรือมีการกลั่นแกล้งให้ได้รับความเสียหาย เพราะไม่มีกฎหมายข้อใดที่ให้เกณฑ์การปรับมากขนาดนี้
บริษัท เอเจฯ จึงทำหนังสือ ขอความเป็นธรรม ไปยังนายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อขอความเป็นธรรมช่วยพิจารณา ความถูกต้องของค่าปรับจำนวน 7,500,000 บาท(เจ็ดล้านห้าแสนบาทถ้วน) โดยมีการทำหนังสือร้องเรียนไปหลายครั้ง แต่บริษัท เอเจฯ ก็ไม่เคยได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการจากนายวันชัย
จนกระทั่งบริษัทฯ ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กก.3 บก.ปคบ.) โดยมี สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นผู้กล่าวหา บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน) กับพวก ลงวันที่ 4 มกราคม 2564
หลังจากได้รับหมายเรียกทางบริษัทได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายวันชัย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับเช่นที่ผ่านมา และไม่ได้พิจารณาให้ความเป็นธรรมต่อบริษัทฯ ซึ่งได้รับความเสียหายมาก เพราะสินค้าถูกอายัดไม่สามารถออกจำหน่ายได้ เนื่องจากสินค้าเก็บไว้นานจึงใช้งานไม่ได้ ถึงแม้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ สมอ. ติดต่อมาว่าจะปลดอายัดสินค้าให้ แต่ก็ใช้ข้ออ้างต่าง ๆ นานา เช่นขอเอกสารยืนยันบ้าง ขออีเมล์ผู้ผลิตบ้าง เพื่อเตะถ่วงเวลาไม่ปลดอายัดสินค้า
ทั้งที่รับทราบว่ามีใบอนุญาต มอก. ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัท เอเจฯ ไม่มีหนทางใดที่จะดำเนินการเร่งรัดให้นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ให้พิจารณา และให้ความเป็นธรรมได้ จึงใคร่ขอร้องทุกข์กับท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการเร่งรัดและให้ความเป็นธรรมช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ทั้งนี้ ทนายความ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวของ นายวันชัย ที่เพิกเฉยต่อเรื่องร้องเรียน บริษัท เอเจฯ มีลักษณะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมีเจตนาทุจริต กลั่นแกล้งให้บริษัท เอเจฯ ได้รับความเสียหาย เดือดร้อนทางธุรกิจยิ่งนัก โดยเฉพาะในช่วง ที่มีความยากลำบากเกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) เช่นนี้ ยิ่งเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการแทนที่จะช่วยเหลือบรรเทาตามนโยบายของรัฐบาล
จึงมาขอพึ่งสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรรม ในกรณีดังกล่าว
อย่างไรก็ตามหากยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องของการตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ ทางบริษัท เอเจ ฯ เตรียมที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ให้ดำเนินการตรวจสอบนายวันชัย พนมชัย จนถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวมีรายงาน สำหรับ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท ม.ร.ว.จิราคม กิติยากร นั่งเป็นประธานกรรมการ และพลโท พจงเจตน์ มีปิ่น เป็นประธานกรรมการตรวจสอบของบริษัท