โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ (รพ.สนาม มธ.) โพสต์ผ่าน เพจเฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ วานนี้ (4 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 116 ของการเปิดทำการในการระบาดรอบที่ 3 และ 4 และเป็นวันที่ 54 ของการเปิดบริการเป็นศูนย์ฉีดวัคซีน ระบุว่า...
วันนี้ยอดผู้ป่วยใหม่และผู้เสียชีวิต (ของประเทศไทยในภาพรวม) สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 20,200 คน กับเสียชีวิต 188 ราย เราผ่านแนวต้านที่สองหมื่นไปแล้ว และคงจะอยู่ที่ระดับมากกว่า 20,000 ไปอีกสัปดาห์หรือสองสัปดาห์อย่างที่ประเมินว่ามันจะต้องเป็น จำนวนผู้เสียชีวิตในระยะต่อไปอาจจะเกิน 200 ต่อวัน เมื่อดูจากจำนวนผู้ป่วยหนักทั่วประเทศที่มีอยู่ในโรงพยาบาลขณะนี้
และพวกเราที่เป็นปลายทางในโรงพยาบาลต่างๆ คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเตรียมระดมสรรพกำลังเท่าที่มีเหลืออยู่ ออกมาให้มากที่สุด เพื่อจะช่วยเหลือผู้คนเท่าที่เราจะสามารถทำให้ได้ เรารู้อยู่แล้วว่าเราช่วยคนทั้งหมดไม่ได้แต่เพียงทำได้สักครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยใหม่รายวัน ก็คงจะดีที่สุดแล้ว
หดหู่ และรันทดเมื่อได้รับการร้องขอให้ช่วยชีวิตผู้คน.. แล้วพวกเราช่วยไม่ได้มากไปกว่าที่กำลังช่วยอยู่ Que sera , sera..
แต่เราก็จะทำเพิ่มอีกให้เต็มสุดกำลังนะเมื่อวานเราขนย้ายเตียงผู้ป่วยวิกฤตอีก 21 เตียง ไปที่ศูนย์ธรรมศาสตร์ธรรมรักษ์ ซึ่งอยู่ริมถนนพหลโยธินขาออก ก่อนถึง ม.กรุงเทพ ซึ่งเคยเป็นศูนย์บริบาลผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วย Palliative care ของเรา
และเราเคยคิดจะป้องกันศูนย์นี้ให้ไม่เกี่ยวข้องกับโควิดเลย แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศูนย์นี้ถูกโจมตี มีผู้ป่วยสามคนและบุคลากรอีกสองคนติดเชื้อ เราจึงต้องแยกอาคารสองชั้นที่มีสองฝั่ง ออกจากกันเด็ดขาด ฝั่งหนึ่งใช้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงตามปกติ อีกฝั่งหนึ่งนำผู้ป่วยติดเตียงที่ติดเชื้อด้วยมาดูแลประคับประคองโดยบุคลากรซึ่งใช้มาตรการป้องกันเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิดแบบ 100% เหมือนกับวอร์ดโควิดในโรงพยาบาลหลัก
ในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยใหม่เพิ่มอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เราจึงต้องตัดสินใจเพิ่มเตียงที่นี่อีก 21 เตียงสำหรับผู้ป่วยโควิดอาการวิกฤตที่อยู่ในระดับที่ต้องเข้าระบบ Palliative care ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์มาใช้เตียงที่นี่ในสัปดาห์นี้ เราไม่อยากให้ใช้เตียงที่นี่จนเต็มอีกเลยจริงๆ นะ
ในแนวรับที่อื่นๆ เพื่อนร่วมรบของเราในโรงพยาบาลต่างๆ ก็คงพยายามทำอย่างเดียวกันเท่าที่จะช่วยทำได้ ให้ดีที่สุดตามศักยภาพที่ต่างก็เหลือกันไม่มากนักแล้วเช่นกัน
เมื่อวานนี้ ที่วชิรพยาบาลของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ก็ได้ตัดสินใจปิดหอผู้ป่วยปกติสองวอร์ดในชั้น 17 ของอาคารเพชรรัตน์ เพื่อเปลี่ยนมาให้รับผู้ป่วยโควิดเพิ่มได้อีก ทั้งวอร์ด 17 เอ และ 17 บี เพื่อให้มีเตียงโควิดเพิ่มได้อีกราว 50 เตียง จากราว 140 เตียงที่รับอยู่เดิมอย่างเต็มกำลังแล้ว นี่คงเป็นความพยายามรวบรวมกำลังและเสริมเตียงครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งรับภาระหนักมากในพื้นที่ทางตะวันตกของ กทม.ที่จะสามารถทำให้ได้แล้วกระมัง
วันนี้ในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์มีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตเพิ่มอีกสองคนและมีบุคลากรของเราตรวจพบการติดเชื้อเพิ่มอีกห้าคน เป็นพยาบาลในศูนย์ธรรมศาสตร์ธรรมรักษ์สองคน และเจ้าหน้าที่อื่นอีกสามคน
ที่โรงพยาบาลสนามจำนวนผู้ป่วยรับเข้าสูงขึ้นตามจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันของประเทศ วันนี้เรารับผู้ป่วยใหม่เข้ามา 41 คน และส่งตัวผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลสนามได้เพียง 27 ราย จำนวนผู้ป่วยสะสมจึงอยู่ที่ 361 คน และมีผู้ป่วยเคสสีเหลืองที่ต้อง Close monitor (ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด) เพิ่มจาก 24 คน เป็น 29 คนแล้ว
สำหรับการให้วัคซีนวันนี้ที่ยิม 4 เราฉีด Astra ให้กับผู้คนไปได้ 2,301 ราย เราอยากจะย้ำด้วยว่า เราน่าจะเหลือวัคซีนที่จะฉีดได้อีกเพียงประมาณห้าวันจากนี้ไปเท่านั้น ถ้าไม่ได้รับวัคซีนมาเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุขหรือจังหวัดปทุมธานีอีก เราจะมีความหวังเพียงแค่จะช่วยป้องกันชีวิตผู้คนของเราเอาไว้บ้าง เพียงเท่านั้นเองนะ ความหวังเล็กๆ นี้จะเป็นไปได้หรือเปล่านะ
วัคซีนที่มีข่าวว่าเราผลิตได้ในประเทศเองและได้สั่งซื้อมามากมาย ไปที่ไหนกันหมดนะ มีใครจะช่วยบอก หรือตอบให้เราทราบบ้างได้ไหม
วันนี้โครงการ Home Isolation เรารับผู้ป่วยสะสมได้เกินกว่า 1,000 คนแล้ว และเพิ่มศักยภาพจนรับผู้ป่วยได้ถึงมากกว่า 100 คนต่อวันแล้วด้วย
ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะทำให้ได้จำนวนผู้ป่วยที่รับเข้ามาดูแลเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อจะรุกคืบไปช่วยดูแลชีวิตของผู้คนที่ป่วย ที่รอความหวังอยู่ให้มากที่สุด เพราะถึงขณะนี้ เราเชื่อว่าเราตั้งหลัก จัดระบบ รวบรวมผู้คน จัดหาสิ่งที่จำเป็นมาได้ครบถ้วนเพียงพอแล้ว แม้ว่าผู้ป่วยใหม่รายวันของประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจก็ตาม
เราทำทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำได้ให้กับทุกคนแล้วนะ ในเวลาอย่างนี้ คงหวังอะไรจากใครไม่ได้แล้ว คงมีแต่พวกเรา ประชาชนคนไทยด้วยกันเท่านั้น ที่จะช่วยดูแลพวกเรากันเองได้
# รักเธอนะประเทศไทย
ขอบคุณ ภาพจากเพจเฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์