จากกรณีการพบศพนักท่องเที่ยวสาวชาวสวิตเซอร์แลนด์ นางสาวนิโคล โซเวน ไวสคอป Nicole Sauvain Weisskopf อายุ 57 ปี เสียชีวิตปริศนาที่บริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
จากรายงานระบุว่า นักท่องเที่ยวสาวรายนี้เดินทางมาจากสิงคโปร์ในโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตามนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาลโดยเข้าพักที่โรงแรม ดุสิตธานี ลากูน่า อ.ถลาง ระหว่างวันที่ 13 - 27 ก.ค. 64
เมื่อครบ 14 วัน ในระยะเวลากำหนดของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เธอได้ย้ายไปพักที่โรงแรมเดอะมอริ่ง รีสอร์ต ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งห่างจากน้ำตกโตนอ่าวยนที่พบศพ ประมาณ 1.4 กิโลเมตรใช้เวลาเดินเพียง 17 นาที มีพยานให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันอังคารที่ 3 ส.ค. เห็นนางสาวนิโคล โซเวน ไวสคอป เดินทางไปที่ชายหาดของโรงแรม ก่อนจะหายตัวไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุการณ์การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาวรายนี้ส่งผลสะเทือนกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างมาก แม้ว่าตามรายงานจะระบุว่า เธอออกจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ไปแล้วก็ตาม แต่การเสียชีวิตของเธอเกิดขึ้นบนเกาะภูเก็ตพื้นที่การท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย
ยิ่งตอกย้ำสะท้อนให้เห็นถึงมาตรการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวของไทยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและเป็นปัญหาที่สะสมเรื้อรังมานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นในห้วงเวลาที่รัฐบาลไทยพยายามจะผลักดันฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้วยการท่องเที่ยววิถีใหม่ในยุคการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีแผนเตรียมเข็นโครงการลักษณะนี้ออกมาอีก โดยใช้ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นต้นแบบ อย่างเช่น สมุย พลัสโมเดล เป็นต้น
จากเหตุการณ์นี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้โทรศัพท์ด่วนแจ้งข่าวนี้แก่เอกอัครราชทูตสวิสประจำประเทศไทยด้วยตนเอง รวมถึงนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้โทรศัพท์ถึงเอกอัครราชทูตสวิสประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป.
พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. และ เจ้าหน้าที่หน่วยหนุมานกองปราบปราม ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสตัวคนร้ายร่วมกับทางตำรวจท้องที่เพื่อเร่งคลี่คลายคดีนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
วันนี้หากผู้ที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่น แก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวได้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยซึ่งทำรายได้หลักเข้าประเทศมูลค่านับแสนล้านบาทที่หลายคนคาดหวังจะช่วยพลิกฟื้นให้เศรษฐกิจไทยกลับคืนมา
ประตูที่เปิดอยู่ โอกาสที่มองเห็นอาจกำลังจะถูกปิดตายลง หากเรายังใช้วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวแบบยั่งยืนได้