จ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 40 ผู้ประกันตนจ่ายที่ไหนได้บ้างเช็คที่นี่

06 ส.ค. 2564 | 09:16 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2564 | 16:25 น.

จ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 40 ผู้ประกันตนพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด สามารถจ่ายเงินสมทบรักษาสิทธิเพื่อรับเงินเยียวยาจำนวน 5,000 บาท ได้ช่องทางไหนบ้าง

จากกรณีที่ สำนักงานประกันสังคม ได้ปิดรับสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40  กลุ่มอาชีพอิสระ หรือ ฟรีแลนซ์ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด แต่ล่าสุดคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้ผ่อนผันให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ชำระเงินสมทบงวดแรกไม่ทันให้รีบจ่ายภายในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ เพื่อรับสถานะความเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมาย พร้อมรับสิทธิเงินเยียวยา 5,000 บาท

 

ช่องทางการจ่ายเงินสมทบ

สามารถจ่ายเงินสมทบผ่านช่องทางที่สะดวก ได้แก่ 

  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11) 
  • เคาน์เตอร์เทสโก้โลตัส 
  • เคาน์เตอร์บิ๊กซี
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัดมหาชน
  • ShoppyPay
  • ตู้บุญเติม

 

 

พื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม

  • กรุงเทพมหานคร
  •  นนทบุรีนครปฐม
  • ปทุมธานี
  • สมุทรปราการ
  • สมุทรสาคร  
  • นราธิวาส
  • ปัตตานี
  • ยะลา
  • สงขลา
  • ฉะเชิงเทรา
  • ชลบุรี
  • พระนครศรีอยุธยา

 

จ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 40 ผู้ประกันตนจ่ายที่ไหนได้บ้างเช็คที่นี่

นางสาวลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19  โดยในส่วนของผู้ประกอบอาชีพอิสระ มาตรา40  รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ 5,000 บาทต่อคน รวมทั้งยังให้สิทธิผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมให้ขึ้นทะเบียนตาม มาตรา40 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท เช่นกัน

 

ปรากฏว่าจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม มีผู้ขึ้นทะเบียนสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา40 เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้ชำระเงินสมทบงวดแรก ทำให้สถานะความเป็นผู้ประกันตนยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลต่อการรับเงินเยียวยา ถึงแม้ข้อมูลการสมัครจะส่งมาที่สำนักงานประกันสังคมแล้วก็ตาม แต่หากยังไม่มีการชำระเงินงวดแรก สถานะก็จะยังไม่มีผลตามกฎหมาย

 

"สำนักงานประกันสังคมจึงขอแจ้งให้ผู้สมัคร ม.40 ได้ทราบว่า รีบดำเนินการชำระเงินสมทบงวดแรกให้ทันภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 นี้."

 

ที่มา: สำนักงานประกันสังคม