7 สิงหาคม 2564 - จากกรณี ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อ นำโดยบริษัท รีพอร์ตเตอร์ โปรดักชั่น จํากัด กับพวกรวม 12 คน ยื่นฟ้อง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากประเด็น การใช้อำนาจ ออกข้อกำหนด ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) เรื่อง " มาตรการเพื่อมิให้มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร อันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือ เจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั่วราชอาณาจักร"
ซึ่งต่อมาภายหลัง 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา ศาลแพ่ง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยห้ามนายกรัฐมนตรี บังคับใช้ข้อกำหนด พรก.ฉุกเฉิน ควบคุมสื่อ โดยชี้ว่าเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง ไม่มีกฎหมายให้อำนาจในการระงับอินเตอร์เน็ต โดยถือข้อกำหนดดังกล่าว ลิดรอนสิทธิเสรีภาพการทำงานของสื่อมวลชน ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย พุทธศักราช 2560 ที่บัญญัติคุ้มครองไว้
คลิกอ่านข่าว : เปิดคำสั่งศาลแพ่ง "คุ้มครองชั่วคราว" ห้ามนายกฯใช้พรก.ฉุกเฉิน "ปิดปากสื่อ"
ล่าสุด นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วิพากษ์ถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมตั้งคำถาม ในเมื่อ รัฐบาลออกกฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญ จะต้องรับผิดชอบอย่างไร โดยมีใจความสำคัญดังนี้ .....
“รัฐบาลออกกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ?”
ถามว่า ศาลแพ่งมีคําสั่งห้ามรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ดําเนินการบังคับใช้ข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 29) เป็นการชั่วคราว รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอย่างไร?
ศาลแพ่งวินิจฉัยว่า
ข้อกําหนดฯ ข้อ 1 ที่ห้ามเผยแพร่ข้อความอันอาจทําให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว
การปฏิบัติที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ อาจจะมีผลหลายอย่าง
หนึ่ง รัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๕ บัญญัติว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทําใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทํานั้นเป็นอันใช้บังคับ มิได้
สอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ บัญญัติว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
จึงน่าติดตามว่า จะมีพรรคฝ่ายค้านที่ร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่