10ส.ค.64 หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการ และผู้ประกันตนมาตรา33 ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้มรวม 13 จังหวัด ใน 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และสาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร โดยจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนและนานจ้าง ม.33 ดังนี้
โดยวันนี้(10 ส.ค.) เป็นการเยียวยาให้กับกลุ่มผู้ประกอบการนายจ้างในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ซึ่งสำนักงานประกันสังคม(สปส.)จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ผูกหมายเลขบัตรประชาชน สำหรับนายจ้างเป็น"บุคคลธรรมดา" ส่วนกรณีที่นายจ้างเป็น"นิติบุคคล" จะโอนเข้าบัญชีเงินฝากตามที่นายจ้างแจ้งอัตโนมัติ
ข้อมูลรายงานของสำนักงานประกันสังคม พบว่ามีนายจ้างทยอยมายื่นขอรับเงินเยียวยาในระบบ e-service แล้วกว่า 2 แสนราย แต่ยังมีนายจ้างอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ยื่นขอรับเงินชดเชยเยียวยา สปส.จึงแจ้งเตือนให้รีบดำเนินการยื่นแบบความประสงค์ขอรับเงินโดยด่วน ตามขั้นตอนดังนี้
ด้านนางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การเยียวยากลุ่มผู้ประกอบการนายจ้างในระบบประกันสังคมจะคิดคำนวณจากจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ได้หัวละ 3,000 บาท จำนวนเงินสูงสุดที่นายจ้างได้รับจะอยู่ที่ 600,000 บาท ล่าสุดมีนายจ้างทยอยมายื่นขอรับเงินเยียวยาในระบบ e-service แล้วประมาณ 2 แสนรายจึงขอให้นายจ้างที่ยังไม่ยื่นขอรับเงินชดเชยเยียวยา ให้รีบดำเนินการยื่นแบบความประสงค์ขอรับเงินโดยด่วน ผ่านระบบ e-service ดังที่กล่าวข้างต้น
ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ภายใน 1 ต.ค.นี้
ทั้งนี้นายจ้างและผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข็มงวด 13 จังหวัด ใน 9 กิจการ สามารถเข้าไปตรวจสอบสิทธิในเว็บไซต์ประกันสังคม sso.go.th/eform หากเช็กแล้วปรากฏว่าไม่ได้รับสิทธิเยียวยา สามารถยื่นขอทบทวนสิทธิ กับสำนักงานประกันสังคมเพื่อตรวจสอบนิติสัมพันธ์ ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เพื่อที่สำนักงานประกันสังคมที่รับผิดชอบจะดำเนินการบันทึกข้อมูลนายจ้างเข้าระบบภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2564
หรือกรณีที่นายจ้างมีสำนักงานใหญ่ อยู่นอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข็มงวด แต่มีสาขาตั้งอยู่ใน13 จังหวัดที่ได้รับการเยียวยา ขอให้นายจ้างรีบดำเนินการติดต่อสำนักง่านประกันสังคมที่รับผิดชอบโดยทันที เพื่อขอจดทะเบียนเพิ่มสาขา หรือขอเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงของประเภทกิจการที่แจ้งไว้เดิม ภายใน 1 ตุลาคม 2564 เพื่อการขอรับสิทธิเงินเยียวยาต่อไป
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง