หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 11 สิงหาคม 2564
+ เวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญ ภายใต้การสนับสนุนจากทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน โดยโครงการดังกล่าวจะรวมถึงการสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ และอื่น ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน
+ หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ส.ค. 64 ปรับตัวลดลง 0.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 438.4 ล้านบาร์เรล
- มาตรการปิดเมืองที่เข้มงวดของหลายประเทศในเอเชียเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา รวมถึงการที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน เนื่องจากภาวะโลกร้อนกำลังใกล้เข้าสู่ระดับวิกฤต ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดน้ำมัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ท่ามกลางอุปสงค์ในภูมิภาคที่ยังเบาบางจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการส่งออกน้ำมันดีเซลของอินเดียที่สูงขึ้น รวมถึงอุปสงค์ของจีนและหลายประเทศที่ชะลอตัวในช่วงล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งข่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.81 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 68.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 70.63 ดอลลาร์/บาร์เรล