วันที่ 11 ส.ค. 2564 ที่ กระทรวงสาธารณสุข นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ตัวแทนภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยแผนการจัดการวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐ อย่างโปร่งใส
หลังจากได้รับข้อร้องเรียนจากบุคลากรด่านหน้า และหน่วยบริการต่าง ๆอาทิอาสาสมัคร พนักงานเก็บขย สัปเหร่อ และภาคประชาชนที่มาช่วยดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ว่าการจัดสรรวัคซีนไม่เพียงพอ ไม่ทั่วถึง และไม่เป็นธรรม สืบเนื่องจากบางแห่งบุคลากรด่านหน้ากลับไม่ได้รับวัคซีน แต่บุคลากรฝ่ายสนับสนุน หรือ Back Office กลับได้รับวัคซีนก่อน จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขเปิดแผนการกระจายวัคซีนให้ชัดเจน รวมทั้งจัดลำดับความสำคัญของบุคคลที่จะได้รับวัคซีน
พร้อมกันนี้ยังขอให้ กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนการจัดสรรวัคซีน 40,000 โดส เพื่อฉีดให้กับกลุ่มต่างชาติ และผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากมองว่าขัดกับวัตถุประสงค์ของการบริจาควัคซีนล็อตนี้ที่ต้องการกระจายให้กับกลุ่มที่มีเสี่ยงสูงและเปราะบางเป็นหลัก ดังนั้นบุคลากรด่านหน้าควรเป็นผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนในล็อตนี้ทั้งหมดก่อน
ทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กระทรวงได้สั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์แล้วจำนวน 20 ล้านโดส ตาม แผนการจัดหาวัคซีนปี 2564 โดยความคืบหน้าล่าสุดบริษัทผู้ผลิตได้แจ้งว่าจะมีการจัดสรรโควตาวัคซีนเพิ่มให้อีก 10 ล้านโดสภายในปีนี้ เมื่อรวมกับวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้บริจาคเดิม และ วัคซีนที่จะได้รับบริจาคจากสหรัฐ 1 ล้านโดส เพิ่มเติมจากที่ได้บริจาคมาแล้ว 1.5 ล้านโดสคาดว่าน่าจะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งจะทำให้ไทยจะมีวัคซีนไฟเซอร์ประมาณ 32.5 ล้านโดสในไตรมาส 4
ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้พยายามจัดสรรวัคซีนให้กลุ่มผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าให้ครบทุกคนตามแผน โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่มีนโยบายกลุ่มวีไอพี และจะเร่งฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงและเร็วที่สุด