นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันหน่วยงานของรัฐหลายแห่งมีความจำเป็นต้องดำเนินการในการป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยการจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ให้แก่ประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ ซึ่งการดำเนินการจองวัคซีนดังกล่าว ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีเงื่อนไขให้หน่วยงานของรัฐที่จัดซื้อต้องจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มให้แก่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อนำไปจัดสรรบริการฉีดให้ผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่เข้าไม่ถึงการรับวัคซีนหลัก ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนวัคซีนที่หน่วยงานของรัฐจัดซื้อ และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะจัดส่งวัคซีนตามรายชื่อผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนไปยังสถานพยาบาลที่หน่วยงานของรัฐได้ระบุไว้ตามวันเวลาที่กำหนด ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นหน่วยงานของรัฐไม่ได้ดำเนินการลงทะเบียนเพื่อควบคุมพัสดุ การเบิกจ่ายพัสดุ และการโอนพัสดุที่มีคุณภาพดี ซึ่งยังไม่หมดความจำเป็น จึงเป็นกรณี ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 203 ข้อ 204 ข้อ 205 และข้อ 215 วรรคหนึ่ง (3)
“คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (คณะกรรมการวินิจฉัย) พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดซื้อวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่มีเงื่อนไขต้องจัดสรรวัคซีนบางส่วน หรือมีการแบ่งสัดส่วนเพื่อบริจาควัคซีนตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กำหนด หรือจากผู้ขายรายอื่นที่กำหนดเงื่อนไขในลักษณะเดียวกันได้ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 29 วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 อนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 203 ข้อ 204 ข้อ 205 และข้อ 215 วรรคหนึ่ง (3) สำหรับการจัดซื้อวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์หรือผู้ขายรายอื่นที่กำหนดเงื่อนไขในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Call center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวันเวลาราชการ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว