20 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าจากรายงานความก้าวหน้าผลการฉีดวัคซีนในระบบ MOPH Immunization Center (MOPH-IC) ของกระทรวงสาธารณสุข มี 8 จังหวัดที่ฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีได้ครอบคลุมเกิน 50 % แล้ว มีดังนี้
ทั้งนี้ ขอให้ทุกจังหวัดโดยเฉพาะ 29 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เร่งดำเนินการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคและหญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์
เนื่องจากขณะนี้การติดเชื้อในพื้นที่ต่างจังหวัดอยู่ที่ร้อยละ 56 ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลร้อยละ 44 ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 จึงเป็นมาตรการสำคัญช่วยลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิต
ส่วนรายงานการฉีดวัคซีนยอดรวมทั่วประเทศวันนี้ (20 สิงหาคม) ทั้งหมด 25,818,666 โดส แบ่งเป็น เข็มแรก 19,586,009 โดส เข็มที่สอง 5,705,200 โดส และเข็มที่สาม 527,457โดส
ส่วนอัตราการฉีดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 อยู่ที่ 651,606 โดส แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า 261,495 โดส ซิโนแวค 257,780 โดส ไฟเซอร์ 24,120 โดส และซิโนฟาร์ม 108,211 โดส
ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายฉีดครอบคลุมประชากรกว่าร้อยละ 70 ภายในสิ้นปีนี้ได้นั้น ต้องเร่งรัดการฉีดให้ได้กว่า 5 แสนโดสต่อวัน
นายแพทย์โอภาสกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาที่ประชุม ศบค.ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมในไตรมาส 4 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อสูงต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของแผนการส่งมอบวัคซีนของวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ที่เจรจาไว้ ไม่สามารถจัดส่งให้ประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า สามารถส่งมอบได้ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม สำหรับวัคซีนที่พร้อมจัดส่ง ได้แก่ ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส และซิโนแวค 12 ล้านโดส และวัคซีนอื่นๆ ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกอีก 10 ล้านโดส