วันนี้ (23 ส.ค.64) เวลา 12.30 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. ชี้แจงกรณีการเปิดให้จองวัคซีนไฟเซอร์แล้วต้องมีการจ่ายเงินนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นเฟคนิวส์ (Fake News) เพราะวัคซีนไฟเซอร์เป็นหนึ่งในวัคซีนที่รัฐจัดให้ประชาชนอยู่แล้ว
โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการลงนามสัญญาและมีการติดต่อยืนยันว่าจะส่งวัคซีนให้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ยืนยันไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ติดตามความคืบหน้าจากทางรัฐบาล ซึ่งจะมีการแถลงให้รับทราบต่อเนื่องเป็นระยะ
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตามที่มีการส่งข้อความผ่านทาง SMS ให้ลงทะเบียนรับวัคซีนป้องกันโรคโควิดไฟเซอร์ โดยระบุว่า ต้องเสียค่าใช้จ่ายนั้น ไม่เป็นความจริง โดยการจัดหาวัคซีนให้กับประชาชนเพื่อป้องกันโรค
และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นนั้น
ขอย้ำว่า ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรับวัคซีน อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที
นายแพทย์โสภณ กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ มีคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 กรณีวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) กำหนดแนวทางชัดเจน และการฉีดมี การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องได้รับวัคซีนก่อนกลุ่มอื่น เนื่องจากมีความเสี่ยงรับเชื้อ และหากรับเชื้อจะมีความรุนแรงอาจเสียชีวิตได้ ประกอบด้วย
1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19
2.กลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปี ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังอายุ 12 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
3.ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง
4.ผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต เป็นต้น
ด้านความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 นับจากไทยเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรก ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 22 ส.ค. 2564) รวม 27,038,999 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 22 สิงหาคม 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 206,820 โดส