จากกรณีการพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อยของเดลต้าในประเทศไทยนั้น ในวันนี้ (24 สิงหาคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมแถลงข่าว
นพ.ศุภกิจ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมีการตรวจโควิดตามปกติมากกว่า 2,000 ตัวอย่าง ในจำนวนนี้พบว่า เป็นสายพันธุ์เดลต้า 1,132 ราย ประกอบกับจากรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดพบว่า ปัจจุบันโควิดสายพันธุ์นี้มีสัดส่วนกระจายอยู่ทั่วประเทศไทยในทุกจังหวัด ทำให้เดลต้ากลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในไทย
อย่างไรก็ดี จากจำนวนที่พบอยู่ในขณะนี้ถือว่า น้อยมาก ทำให้การแยกย่อยของสายพันธุ์เดลตา ทั้ง 4 ตัว ยังไม่มีข้อมูลว่า ดื้อต่อวัคซีนโควิดมากน้อยเพียงใด รวมถึงเกิดการอาการต่าง ๆ แตกต่างจากสายพันธุ์เดลตาซึ่งเป็นสายพันธุ์แม่หรือไม่ อย่างไร โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับสายพันธุ์ย่อยของเดลตาทั้ง 4 ตัวนี้นี้ยังพบในต่างประเทศด้วย อาทิ ที่อังกฤษ สเปน เดนมาร์ก และสหรัฐอเมริกา ดังนั้น จึงยังไม่ใช่สายพันธุ์ไทย แม้ว่าจะเป็นลูกหลานของสายพันธุ์เดลตาที่พบในประเทศไทยก็ตามเพราะเป็นเรื่องปกติของสายพันธุ์ไวรัสที่หากพบว่า มีการระบาดจากคนสู่คนจำนวนมากจะยิ่งมีโอกาสเกิดการกลายพันธุ์หรือเกิดสายพันธุ์ย่อยได้
ด้าน ศ.เกียรติคุณ ดร. วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้อธิบายการพบสายพันธุ์ย่อยเดลต้าในครั้งนี้ว่า เกิดจากการสุ่มถอดรหัสพันธุ์กรรม ทั้ง จีโนม (SARS-CoV-2 whole genome sequencing 30,000 bp) เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2564 จากตัวอย่างที่ส่งมาทั่วประเทศซึ่งเป็นการประสานงานกันระหว่างศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี และ กลุ่มพันธมิตร COVID-19 Network Investigations (CONI)
โดยข้อมูลรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของตัวอย่างทั้งหมดที่ถอดได้นั้นถูกอัพโหลดขึ้นบนฐานข้อมูลโควิดโลก หรือ GISAID เพื่อให้ประเทศต่างๆได้ร่วมกันใช้ประโยชน์เพื่อการป้องกัน ดูแล และรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งจากการวิเคราะห์สัดส่วนของโควิดกลายพันธุ์ในประเทศไทย พบว่า สายพันธุ์ย่อยของเดลตา 4 ตัว ดังนี้
ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า การพบ 4 สายพันธุ์ย่อยของเดลต้าในครั้งนี้ สิ่งที่น่าสนใจและเป็นคำถามใหญ่ที่จะต้องขบคิดและติดตามกันต่อไป นอกจากการดูแลรักษาผู้ป่วยติดโควิดแล้วต้องมองถึงการป้องกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนโควิดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันว่า ยังใช้ได้ผลดีอยู่หรือไม่