พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม. ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ให้กับผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่เขตสาทร ขณะเดียวกันได้เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ที่พักอาศัยอยู่แต่ภายในบ้าน ไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านมารับบริการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลหรือหน่วยบริการฉีดวัคซีนได้ โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ลิงก์ คลิกที่นี่ จะมีทีมสาธารณสุขลงพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนที่บ้าน ซึ่งการที่ผู้ป่วยติดเตียงได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะช่วยลดความรุนแรงหากติดเชื้อได้ หากครอบครัวใดที่ภายในบ้านมีผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ขอให้ลงทะเบียนเพื่อรับบริการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เนื่องจากผู้ป่วยติดเตียงถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย และอาจมีอาการที่รุนแรง รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตสูง พร้อมกันนี้ กรุงเทพมหานครยังได้จัดทีม CCRT ฉีดวัคซีนเชิงรุกในชุมชนและในพื้นที่ที่มีการระบาดสูงอย่างต่อเนื่อง หากพบผู้ป่วยติดเตียงจะฉีดวัคซีนให้ทันที
สำหรับในจุดแรกเป็นผู้ป่วยติดเตียง เพศหญิง อายุ 96 ปี บ้านเลขที่ 1 ซอยสาทร 11 แยก10 ส่วนจุดที่ 2 เป็นผู้สูงอายุ เพศชาย อายุ 77 ปี ผู้ป่วยติดเตียง เพศหญิง อายุ 67 ปี และผู้ดูแลซึ่งอยู่ใกล้ชิด 2 คน บ้านเลขที่ 99 ซอยสาทร 21 รวมทั้งหมด 5 คน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกผู้ป่วยติดเตียงที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมทั้งป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้กทม. โดยสำนักอนามัย ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง และสำนักงานเขต 50 เขต ได้ลงพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุก แก่กลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้สูงอายุ ถึงที่พักอาศัยภายในบ้าน เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งไม่สามารถเดินทางมารับบริการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลหรือหน่วยบริการฉีดวัคซีน โดยกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 3 เดือนแล้ว
อย่างไรก็ตามประชาชนกลุ่มดังกล่าวที่ต้องการรับบริการฉีดวัคซีน สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์สาธารณสุขใกล้บ้านทั้ง 69 แห่ง สำนักงานเขต 50 เขตในพื้นที่ สายด่วน 1669 หรือลงทะเบียนได้ที่ลิงก์ที่กรุงเทพมหานครกำหนดไว้ ขณะนี้มีประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนฉีดวัคซีนแล้วกว่า 5,000 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง 2,000 กว่าราย ผู้สูงอายุเกือบ 2,000 ราย และกลุ่มเปราะบางที่ไม่สะดวกเดินทางอีกประมาณ 500 กว่าราย โดยจะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีน AZ แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน