รัฐบาลแจงคืบหน้าจ่ายเยียวยานักเรียนแล้ว 2.17 หมื่นล้าน

01 ก.ย. 2564 | 03:30 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ย. 2564 | 14:17 น.

รองโฆษกรัฐบาล ยัน เร่งเยียวยานักเรียน นักศึกษา เผย มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาโอนแล้ว 2.17 หมื่นล้าน ระบุ นายกฯ กำชับให้หน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด ไม่ให้มีการทุจริต ต้องถึงมือผู้ปกครองนักเรียน และนักศึกษาอย่างครบถ้วน

จากกรณีเยียวยานักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดภายในประเทศ ความคืบหน้าล่าสุด นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะนี้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการ โดยมีความคืบหน้าดังนี้

กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้เริ่มการเบิกจ่ายเงินสำหรับโครงการ อว.ลดค่าเทอม แล้วตั้งแต่ 26 ส.ค.64 สำหรับมหาวิทยาลัยและสถาบันที่ได้จัดส่งข้อมูลผ่านการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง

 

ขณะนี้มีจำนวน 29 แห่ง รวมเป็นเงิน 2,250 ล้านบาท ซึ่งมหาวิทยาลัย/สถาบันอุดมศึกษาจะนำไปใช้ลดค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาภาคเรียนที่ 1/2564 ในสัดส่วนเงินสนับสนุนจากรัฐบาลตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้เร่งติดตามและตรวจสอบระบบการเบิกจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด เงินทุกบาทที่รัฐบาลสนับสนุน ต้องถึงมือนิสิตนักศึกษา คืนให้กับคนที่ได้ชำระค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาไปแล้ว หรือใช้ลดค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษา

สำหรับผู้ที่กำลังจะชำระเงิน โดยมหาวิทยาลัยไม่เก็บเงินดังกล่าวไว้แต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งให้เร่งตรวจสอบและยืนยันข้อมูลนักศึกษาส่งมาที่กระทรวงโดยเร็ว เพื่อดำเนินการอนุมัติเบิกจ่ายแก่สถาบันที่เหลือ อีกประมาณ 100 กว่าแห่ง ให้เป็นไปตามเป้าหมายและกรอบระยะเวลาต่อไป

ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาผู้ปกครองและนักเรียน จำนวน 2,000 บาท กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับงบประมาณ จำนวน 1.95 หมื่นล้านบาท สำหรับเด็กนักเรียน 9.79 ล้านคน เมื่อ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา และทำการจัดสรรไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแลแล้ว ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยแต่ละสำนักงาน จะโอนเงินไปให้โรงเรียนภายใต้สังกัดต่อไป และโรงเรียนจะโอนเงินหรือจ่ายเป็นเงินสด (หากไม่สามารถโอนเงินได้) ถึงมือผู้ปกครองตั้งแต่วันที่ 1-7 ก.ย. ซึ่งผู้ปกครองที่ไม่ได้รับเงินภายในเวลาดังกล่าว ขอให้ติดต่อโรงเรียนที่บุตรหลานศึกษาอยู่ หรือโทร หมายเลข 1579 / 1693

นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทั้งสองกระทรวง ติดตามตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด ทุกขั้นตอน ไม่ให้มีการทุจริต ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส และต้องถึงมือผู้ปกครองนักเรียน และนักศึกษาอย่างครบถ้วน