บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ล่าสุด 1,000 รอบนี้ผู้ถือบัตรกดเป็นเงินสดได้

01 ก.ย. 2564 | 17:09 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ย. 2564 | 15:04 น.

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ล่าสุด 1,000 วันที่ 3 ก.ย. กรมบัญชีกลาง พร้อมเติมเงินให้ผู้ถือบัตรอีกรอบจำนวนสามารถกดเป็นเงินได้

กรมบัญชีกลาง ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ได้โอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ให้กับผู้ถือบัตร จำนวน 13.9 ล้านคน รอบแรกเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมาเพื่อเป็นค่าสินค้ากับร้านค้าที่ร่วมโครงการประชารัฐ

 

1 ก.ย.โอนแล้วสองรายการ

รายการที่หนึ่ง

  • รายการซื้อของกินของใช้จำนวน 200 หรือ 300 บาท ใช้ได้เฉพาะร้านค้าประชารัฐเท่านั้น
  • คนละ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ที่มีรายได้ 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  • คนละ 300 บาทต่อเดือน แบ่งตามเกณฑ์รายได้ ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี
  • ต้องใช้จ่ายให้หมดทุกๆเดือนไม่สบทมเดือนถัดไป

 

รายการที่สอง

  • เงินเยียวยาพิเศษช่วยเหลือบัตรสวัสดิการทั่วประเทศได้คนละ 200 บาท ใช้ซื้อสินค้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ ร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ไปใช้สิทธิยื่นบัตรและสแกน ณ ตอนนี้ เงินเหลือเท่าไหร่ เงินซื้อสองมีสองส่วน
  • วันที่ 1 ก.ค. 64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 ส.ค.64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 ก.ย.64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 ต.ค.64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 พ.ย64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 ธ.ค.64 จำนวน 200 บาท

 

สามารถซื้อสินค้าร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และ ร้านคนละครึ่ง ที่ร่วมโครงการ

วันที่ 3 ก.ย. ได้อีก 1,000 บาท กดเป็นเงินสดได้

 

ล่าสุด ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรคนจน จำนวน 4.7 ล้านคน กรมบัญชีกลาง เติมเงินให้ผู้ถือบัตรสูงสุด จำนวน 1,000 บาท  เนื่องจากคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ อนุมัติเป็นเงินตกเบิก โดยเรื่องนี้ นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง และ  ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ มีมติเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เห็นชอบการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจากกองทุนผู้สูงอายุ โดยกรมบัญชีกลางทำหน้าที่ในการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ ตามอัตราการจ่ายเดิม คือ ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 100 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุที่มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 50 บาทต่อเดือน ซึ่งจะจ่ายย้อนหลัง ดังนี้ 

- ปีงบบประมาณ พ.ศ. 2563 จ่าย 4 เดือน (มิถุนายน - กันยายน 2563) 

- ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จ่าย 6 เดือน แบบเดือนเว้นเดือน (ตุลาคม และธันวาคม 2563 กุมภาพันธ์ เมษายน มิถุนายน และสิงหาคม 2564) 

 

 “สำหรับเงื่อนไขของผู้มีสิทธิ จะต้องเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ก่อนเดือนที่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์ฯ โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ ในวันที่ 3 กันยายน 2564 ซึ่งวงเงินดังกล่าว สามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปพลิเคชั่น “ถุงเงินประชารัฐ” ที่ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น หรือร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งสามารถถอนเป็นเงินสดได้ที่ตู้ ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย หรือสาขาของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว

 

 

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 หรือ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 02 109 2345 ในวัน เวลาราชการ

 

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ล่าสุด 1,000 รอบนี้ผู้ถือบัตรกดเป็นเงินสดได้

กดเป็นเงินสดที่ กรุงไทย และ ธ.ก.ส.

 

อย่างไรก็ตาม “ฐานเศรษฐกิจ” ได้โทรสอบถามไปยังคอลเซ็นเตอร์ของกรมบัญชีกลาง เพื่อสอบถามตกเบิกเบี้ยสูงอายุ ได้รับคำยืนยันว่าในวันที่ 3 ก.ย.นี้ กรมบัญชีกลาง โอนเงินเบี้ยตกเบิกผู้สูงอายุให้กับผู้ถือบัตร หากผู้ถือบัตรได้รับค่าสินค้าโครงการกำลังซื้อเดือนละ 200 บาท กรมบัญชีกลาง เติมเงินตกเบิกให้เป็นจำนวน 500 บาท ส่วนผู้ถือบัตรได้รับค่าสินค้าโครงการกำลังซื้อเดือนละ 300 บาท กรมบัญชีกลาง เติมเงินตกเบิกให้ 1,000 บาท สามารถกดเงินที่ธนาคารกรุงไทย และ ธ.ก.ส. หรือ ซื้อสินค้ากับร้านค้าที่ร่วมโครงการประชารัฐได้เช่นเดียวกัน.

 

ที่มา: กรมบัญชีกลาง