จากกรณีที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 อนุมัติวงเงินเพิ่มเติม 16,965.5 ล้านบาท เป็นกรอบวงเงินรวม 34,015.9 ล้านบาท ในโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 (ม.33)ใน 9 กิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ประกอบด้วยการให้ความช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ 13 จังหวัดในระยะเวลา 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) และในพื้นที่ 16 จังหวัด ระยะเวลา 1 เดือน (ส.ค.) รายละเอียดดังนี้
1.จ่ายเยียวยาช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด เพิ่มเติม 1 เดือน (สิงหาคม) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 16,103.3 ล้านบาท แบ่งเป็น
2.อนุมัติวงเงินเพิ่ม 862.2 ล้านบาท โดยขยายกรอบวงเงินจาก 17,050.4 ล้านบาท เป็น 17,912.6 ล้านบาท จากการปรับปรุงจำนวนนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ 29 จังหวัด
โดยมีนายจ้างจำนวน 226,394 ราย เพิ่มขึ้น 18,900 ราย และผู้ประกันตน ม.33 จำนวน 3,877,936 ราย เพิ่มขึ้น 400,375 ราย ซึ่งเป็นผลจากการขยายเวลาให้นายจ้างในพื้นที่ 3 จังหวัดและ16 จังหวัด สามารถขึ้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ได้ภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ทั้งนี้ ยังขยายระยะเวลาในการเบิกจ่ายและดำเนินโครงการถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การโอนเงินเยียวยาให้กับนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 เพิ่มเติม 1 เดือน หรือรอบ 2 จะเริ่มโอนเงินภายในเดือนกันยายนนี้
"นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งกำชับให้กระทรวงการคลัง ทบทวนมาตรการที่เกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงโครงการคนละครึ่ง โดยขอให้มีการเสนอมาตรการอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น และให้พิจารณาทั้งประเด็นของพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย ว่า มีกลุ่มใดตกหล่นหรือไม่ เพื่อให้ถูกต้องและครอบคลุมมากที่สุด" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยข่าวดี ว่าหลังได้รับงบประมาณจากกระทรวงการคลัง จะเร่งโอนเงินเยียวยา รอบ 2 ให้กับผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ 13 จังหวัด โดยเข้าบัญชีผูกพร้อมเพย์บัตรประชาชน คนละ 2,500 บาท ช่วงวันที่ 20- 30 กันยายน 2564
เช่นเดียวกับนายจ้างประกันตน ม. 33 ก็จะได้รับโอนเงินเยียวยาในช่วงเดียวกันคือ วันที่ 20- 30 ก.ย. 2564
สำหรับพื้นที่13 จังหวัดสีแดงเข้ม ที่ได้รับเงินเยียวยาเพิ่มเติม 1 เดือนอีกคนละ 2,500 บาท รวมเป็น 2 เดือนหรือ 5,000 บาท ได้แก่จังหวัด กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และจ.สงขลา
ส่วน16 จังหวัดสีแดงเข้ม (เพิ่มใหม่มีผล 3 ส.ค.64 เป็นต้นไป) จะได้รับเงินเยียวยาเพียงรอบเดียว หรือ 1 เดือนได้แก่ จังหวัด กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรีและจ.อ่างทอง