สัปดาห์นี้ดูเหมือนว่าข่าวคราวการ "แฮกข้อมูล" ในระบบหรือการโจมตีข้อมูลจากแฮกเกอร์จะมีให้ได้ยินกันอย่างต่อเนื่อง
เริ่มตั้งแต่การแฮกข้อมูลของโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ตามมาด้วยโรงพยาบาลสถาบันโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ที่ล่าสุดนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ลักลอบเจาะข้อมูลระบบ ทำให้โรงพยาบาลได้รับความเสียหาย 40,000 คน
นอกจากนี้ยังมีการอ้างว่าแฮกเกอร์มีข้อมูลส่วนบุคคลหลุดมาขายอีก 30 ล้านรายชื่อ มีทั้งเลขบัตรประชาชน เบอร์ติดต่อ ที่อยู่ และ วันเกิด
ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่า ร้านซีพีเฟรชมาร์ท โพสต์เฟซบุ๊คเพจ CP Freshmart โดยชี้แจงว่าได้ทราบถึงการแฮ็กข้อมูลในระบบ ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัทภายนอกเป็นผู้ให้บริการ ส่งผลให้มีการเข้าถึงรายชื่อลูกค้าของร้าน โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดำเนินการตรวจสอบและควบคุมเหตุการณ์ทันที และอยู่ระหว่างการสืบสวนอย่างเร่งด่วนเพื่อระบุข้อมูลที่ลูกค้าอาจถูกละเมิด รวมถึงดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงระบบสารสนเทศให้มีความรัดกุม
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเข้าถึงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาต อาทิ ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ แต่ไม่มีข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลด้านการเงิน และขอย้ำว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและระบบความปลอดภัยด้านอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ลูกค้าระวังการหลอกลวงทางโทรศัพท์ และการหลอกลวงทางอีเมล์(phishing) เนื่องจากผู้ไม่หวังดีอาจใช้ข้อมูลเหล่านี้หลอกลวงเพื่อรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งขอเรียนว่าทางร้านไม่มีนโยบายที่จะติดต่อลูกค้าเพื่อขอข้อมูลทางด้านการเงินใดๆ
ร้านซีพีเฟรชมาร์ท ให้ความสำคัญในการปกป้องและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด และขออภัยอย่างยิ่งต่อความกังวลและความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นดังกล่าว