รมช.สันติ เกาะติดน้ำท่วมเพชรบูรณ์สั่งหน่วยงานระดมช่วยเหลือ 11 ตำบล

14 ก.ย. 2564 | 14:26 น.

รมช.สันติ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม อ.หล่มสัก จ.เพชรบรูณ์ หลังฝนตกต่อเนื่อง พร้อมนำสารและถุงยังชีพจากนายกรัฐมนตรีมอบกำลังใจให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน ร่วมแก้ปัญหาน้ำเอ่อล้นท่วม กว่า 2,000 ครัวเรือน ใน 11 ตำบล

นายสันติ พร้อมพัฒน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.ตาลเดี่ยว  อ.หล่มสัก จ.เพชรบรูณ์ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น จำนวน 1,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมขัง ในหลายพื้นที่ของอำเภอ จากปริมาณฝนที่ตกมาอย่างต่อเนื่องในช่วง  9 -11 กันยายน  ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เป็นเหตุให้บ้านเรือนได้รับผลกระทบจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก เป็นผลทำให้ปริมาณน้ำเอ่อล้นในพื้นที่วงกว้าง  การสัญจรของประชาชนเป็นไปอย่างยากลำบาก มีผลต่อการประกอบอาชีพ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

รมช.สันติ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม อ.หล่มสัก จ.เพชรบรูณ์
"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ครั้งนี้ โดยนำสารจากนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งต่อขวัญและกำลังใจในการต่อสู้กับความยากลำบากที่เกิดขึ้นในช่วงที่วิกฤตมามอบให้กับประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนและอาสาสมัครในการปฎิบัติหน้าที่ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลพร้อมเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในอนาคต โดยการเสนอผ่านหน่วยงานระดับจังหวัด และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในพื้นที่"

ทั้งนี้ จากการได้รับรายงานสถานการณ์อุทุกภัยในพื้นที่อำเภอหล่มสัก พบว่ามีประชาชนกว่า 2,000 ครัวเรือน จาก 11 ตำบล 62 หมู่บ้าน รวมเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก  11 ชุมชน  ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โดยรวมได้เริ่มลดระดับ เนื่องจากทางจังหวัดได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งอัตราการไหลของน้ำให้เร็วน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัยให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้มีแผนการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องในการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในอนาคต เพื่อเป็นการสร้างทางระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ