หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 17 กันยายน 2564
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสคงที่ หลังกำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนนิโคลัส เริ่มฟื้นตัว โดยบริษัทพลังงานหลายแห่งในรัฐเท็กซัส สามารถกลับมาดำเนินการบริการท่อส่งน้ำมันและไฟฟ้าได้อีกครั้ง หลังจากพายุเคลื่อนผ่านเท็กซัสไปแล้ว ทำให้สามารถเร่งดำเนินการซ่อมแซมส่วนที่เกิดความเสียหายจากพายุเฮอริเคนไอดาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
+ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) และ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในไตรมาส 2 ของปีหน้า ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปี 62 ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
+ ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากราคาพลังงานและเชื้อเพลิงในทวีปยุโรปที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณก๊าซคงคลังอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งอุปทานจากรัสเซียที่ลดลงต่ำกว่าปกติ เนื่องจากอุปสงค์ทางฝั่งเอเซียที่เพิ่มสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันมาตรฐานยุโรป (Dutch TTF) เพิ่มขึ้นมากกว่า 250% ตั้งแต่เดือนมกราคม
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงของญี่ปุ่น หลังขยายมาตรการล็อคดาวน์ที่โตเกียวและพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศไปจนถึง 30 ก.ย. 64 เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความคาดหวังว่าอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศ โดยหลายๆประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินเดียและฟิลิปปินส์ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากพายุเฮอริเคนนิโคลัสเคลื่อนตัวผ่านรัฐเท็กซัสไปแล้วในช่วงต้นสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ปิดทรงตัวที่ระดับ 72.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 75.67 ดอลลาร์/บาร์เรล