www.sso.go.th มาตรา 40 พรุ่งนี้ อย่าลืมเช็คสิทธิ รับเงินเยียวยารอบสอง 5 พัน

22 ก.ย. 2564 | 10:30 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2564 | 17:43 น.

www.sso.go.th ประกันสังคมมาตรา 40 พรุ่งนี้ สำนักงานประกันสังคมโอนเงินเยียวยาจำนวน 5,000 บาทรอบสอง ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด อย่าลืมตรวจสอบสิทธิ ย้ำต้องผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนเท่านั้น

วันนี้ 22  ก.ย. สำนักงานประกันสังคม ได้โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา40 พื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ที่รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์ รับเงินรอบที่ 2  ซึ่งได้รับเงินเยียวยาอีกคนละ 5,000 บาท 

 

สำหรับ 13 จังหวัดสีแดงเข้มหรือควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ล็อกดาวน์ 2 เดือน ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา

อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ 23 ก.ย. สำนักงานประกันสังคม โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 สามารถเช็คสิทธิได้ล่าสุดเพจสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน โพสต์ข้อความว่า ท่านสามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนได้ที่ www.sso.go.th 

 

www.sso.go.th มาตรา 40 พรุ่งนี้  อย่าลืมเช็คสิทธิ รับเงินเยียวยารอบสอง 5 พัน

 

 

สำหรับประกันสังคมมาตรา 40  รอบ 2 ในพื้นที่ 13  มีผู้สมัครได้รับสิทธิ จำนวน 4 ล้านคน โดยสำนักงานประกันสังคมโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน รอบ 2 อีกคนละ 5,000 บาท รวมเป็น 1 หมื่นบาท โดยสำนักประกันสังคมโอนเงินเยียวยาผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนเท่านั้น

ไทม์ไลน์โอนเงินเยียวยาพื้นที่สีแดงเข้มให้กับผู้ประกันตนทั้ง 3 มาตรา ดังนี้

  • วันที่ 21 ก.ย.64 โอนเงินเยียวยา ม.39 ที่ประกาศล็อกดาวน์ 2 เดือนในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้มคนละ 5,000 บาท จำนวน 1.17 ล้านคน
  • วันที่ 22-23 ก.ย.64 โอนเงินเยียวยา ม.40 รอบ 2 ในพื้นที่ 13 จังหวัด จำนวน 4 ล้านคนจะได้รับเยียวยารอบ 2 อีกคนละ 5,000 บาท
  • วันที่ 27 ก.ย.64 โอนเงินเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ 13 จังหวัด ที่ประกาศล็อกดาวน์ 2 เดือน จำนวน 3.5 ล้านคน จะได้รับเยียวยารอบ 2 อีกคนละ 2,500 บาท
  • วันที่ 28 ก.ย.64 โอนเงินเยียวยา ม.40 ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา จำนวน 3.45 แสนคน ที่ขึ้นทะเบียนใหม่และจ่ายเงินสมทบเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ระหว่างวันที่ 4 – 24 ส.ค.64 จะได้รับเยียวยารอบ 2 อีกคนละ 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาท.

 

ที่มา: สำนักงานประกันสังคม