รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า
โควิด-19 ความหวังภูมิคุ้มกันหมู่ herd immunity ในโรคโควิด-19
หมอยง ระบุว่า ภูมิคุ้มกันหมู่ หมายถึง เมื่อประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานต่อโรคติดเชื้อ จะช่วยลดการระบาด และปกป้องผู้ที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ไม่ให้เกิดการติดเชื้อได้ เช่น โรคหัด ถ้าประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทาน ไม่ว่าจะจากการฉีดวัคซีน หรือการติดเชื้อ เป็นหัดแล้ว ประชากรส่วนน้อยได้รับประโยชน์ถูกปกป้องไปด้วย ไม่ให้เกิดการระบาดของโรค แต่ภูมิคุ้มกันหมู่ไม่สามารถใช้ได้กับโรค บางโรคที่เป็นเฉพาะบุคคล เช่น บาดทะยัก ต่อให้เราฉีดวัคซีนบาดทะยักมากแค่ไหน คนที่ไม่ได้ฉีดถ้าไปโดนตะปูตำ คนอื่นที่ฉีดวัคซีนแล้วจำนวนมาก ก็ไม่สามารถจะมาปกป้องเราได้
ความหวังให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ สำหรับโรคโควิด-19 ในระยะเริ่มแรกที่มีวัคซีน โดยคาดการณ์กันว่าถ้าประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานจากการติดเชื้อ หรือได้รับวัคซีนมากกว่าร้อยละ 70 ก็จะหยุดการระบาดของโรคได้ แต่ความเป็นจริง ภูมิคุ้มกันหมู่ ไม่สามารถใช้ได้กับโรคโควิด-19
สิงคโปร์ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 80% โรคก็ยังระบาดอยู่ อิสราเอลก็เช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพราะภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ และแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้ แต่ความรุนแรงของโรคลดน้อยลง ไวรัสเองยังเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ ที่จะหลบหลีกต่อระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์
ถ้ามีภูมิต้านทานจากการติดเชื้อ หรือฉีดวัคซีน เมื่อติดเชื้ออาการจะลดน้อยลงหรือไม่มีอาการ การติดเชื้อครั้งแรกในคนที่ไม่มีภูมิต้านทาน จะรุนแรงที่สุด และจะสร้างภูมิต้านทานป้องกันการติดเชื้อในครั้งต่อไปให้มีอาการลดน้อย และจะลดน้อยลงเรื่อยๆจนเป็นเหมือนโรคทางเดินหายใจแบบปกติ
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญทุกคนจะต้องมีภูมิต้านทาน ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น เกิดได้จากการติดเชื้อหรือการได้รับวัคซีน และเมื่อมีการติดเชื้อเมื่อมีภูมิต้านทาน อาการก็จะน้อยลงหรือไม่มีอาการ
ในอนาคตการพัฒนายามาช่วยในการรักษาหรือลดอาการของโรคลงอีก ก็จะเป็นวิธีที่ช่วยเสริมลดความรุนแรงลง
เราจะอยู่ด้วยกันกับไวรัสเช่นไวรัสทางเดินหายใจชนิดอื่น และต่อไปโรคนี้จะเป็นในเด็ก และมีอาการน้อย ไม่สามารถจะกวาดล้างให้หมดไปได้
ทุกคนควรได้รับวัคซีน ให้มีภูมิต้านทานเกิดขึ้น เพื่อลดความรุนแรงของโรคลง ด้วยการฉีดวัคซีนทุกคน
สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19)ในประเทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามรายงานจากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- ต.ค. 64 มีการฉีดวัคซีนสะสมแล้วจำนวน 54,869,411 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 32,904,750 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 20,531,903 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 1,432,758 ราย