หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 8 ตุลาคม 2564
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น จากแถลงการณ์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่ระบายน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) หลังก่อนหน้านี้ ตลาดมีความกังวลว่า สหรัฐฯ อาจจะพิจารณาเรื่องปล่อยน้ำมันดิบออกออกจากคลังหรืออาจระงับการส่งออกน้ำมัน เพื่อฉุดต้นทุนราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวลดลง และเพื่อรองรับความต้องการน้ำมันในประเทศ
+ ผู้ผลิตดิบรายใหญ่และสำนักงานพลังงานสากล คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้นจาก 150,000 เป็น 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติเปลี่ยนไปใช้น้ำมันจากราคาก๊าซที่สูง
+ ความต้องการใช้น้ำมันดิบในจีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เบาบางลงประกอบกับอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (โอเปกพลัส) ยืนยันที่จะยังคงปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือน พ.ย.64 ตามแผนเดิมที่ได้วางไว้ก่อนหน้า
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม ถึงแม้ว่าอุปสงค์ในจีนจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันหยุดยาวประจำปี
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดี อุปทานในภูมิภาคปรับลดลงจากปริมาณการส่งออกของจีนลดลงในช่วงการหยุดซ่อมบำรุง
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐไม่มีแผนที่จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR)
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 78.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 81.95 ดอลลาร์/บาร์เรล