วันนี้(20 ต.ค.64) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาการศึกษา และพัฒนาสุขภาพ ของผู้เรียนทุกช่วงวัย ผ่านโครงการ สถาบันพระบรมราชชนก “สบช.สัญจร”
นางสาวตรีนุช เทียนทอง กล่าวถึงความพร้อมในการเปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ว่า ยังไม่เปิดพร้อมกันทั่วประเทศ แต่จะเป็นการพิจารณารายพื้นที่จากปัจจัยการแพร่ระบาดของโควิด-19
“ตอนนี้กระทรวงศึกษาธิการ กำลังวางแผน กรอบเป้าหมายในการเปิดเรียน โดยให้พิจารณาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในทุกพื้นที่ ในเบื้องต้นให้โรงเรียนประเมิน และทยอยเปิดเรียนตามความพร้อม ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะนำข้อมูลเงื่อนไขประเมินแต่ละพื้นที่เสนอไปยัง ศบค. ในการพิจารณาแนวทางการเปิดเรียน ซึ่งหากผ่าน ทางคณะกรรมการจังหวัดก็สามารถพิจารณาเปิดเรียนในพื้นที่ได้”
โดยพื้นที่ซึ่งพบการระบาดจะให้พิจารณาเป็นรายพื้นที่ เช่น พิจารณาเฉพาะระดับอำเภอ หรือตำบล ไม่พบการระบาด 2-3 เดือน ต่อเนื่อง ก็สามารถเปิดการเรียนการสอนได้
ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ การเปิดเรียนในห้องเรียนตามปกติขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสาธารณสุขจังหวัด หากยังพบมีการแพร่ระบาดก็สามารถพิจารณาเกณฑ์การเรียนรู้แบบออนไลน์ที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้
ส่วนนักเรียนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน รมว.ศึกษาธิการ ยืนยันว่า สามารถเรียนได้ตามปกติ เพราะมีมาตรการสาธารณสุขเข้มงวดอยู่แล้ว
ด้านนายอนุทิน กล่าวถึงเป้าหมายของการฉีดวัคซีนในกลุ่มนักเรียน ว่าขณะนี้มีนักเรียนได้รับวัคซีนแล้ว 1.3 ล้านโดส จากเป้า 4 ล้านคน ส่วนกลุ่มของนักเรียนนอกระบบการศึกษา ก็สามารถเข้ารับวัคซีนได้ตามตามเกณฑ์ช่วงอายุ
“กลุ่มเด็ก 12 ถึง 17 ปี ทุกคนจะได้รับวัคซีน โดยในวันพรุ่งนี้จะสั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำชับในที่ประชุม EOC ในจังหวัดและหน่วยสาธารณสุขในทุกพื้นที่เปิดให้ กลุ่มเด็ก 12 ถึง 17 ปี สามารถลงทะเบียนและเข้ารับวัคซีนโดยมีผู้ปกครองยินยอม”