ศบค.ย้ำการเปิดประเทศ ยึดปลอดภัย ระบบสาธารณสุขจะต้องรองรับได้

25 ต.ค. 2564 | 08:05 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ต.ค. 2564 | 15:23 น.

ศบค.ย้ำการเปิดประเทศ ต้องเป็นภายใต้เงื่อนไขของความปลอดภัย ระบบสาธารณสุขจะต้องรองรับได้ ชี้การเปิดประเทศส่วนหนึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้คนไทยสามารถกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องกักตัว

25 ต.ค.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวันช่วงหนึ่งว่า ที่มีหลายคนตั้งคำถามว่า ยังมีการติดเชื้อประเทศอยู่ การเปิดประเทศจะมีความเสี่ยงหรือไม่นั้น รายชื่อประเทศ 45 ประเทศ และ 1 เขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่เราจะได้ให้เดินทางเข้านั้น ต้องอยู่ที่พื้นที่ต้นทางด้วยว่า เขาอนุญาตให้ประชาชนของเขาออกนอกประเทศแล้วหรือยัง แต่ยืนยันเราวางเงื่อนไขทุกอย่างเพื่อปลอดภัย และระบบสาธารณสุขของเรารับได้

ศบค.ย้ำการเปิดประเทศ ยึดปลอดภัย ระบบสาธารณสุขจะต้องรองรับได้

สิ่งสำคัญคือการเพิ่มประเทศให้เป็น 45 ประเทศและ1 เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ส่วนหนึ่ง คือการคำนึงถึงคนไทยที่ต้องการจะกลับประเทศ เพื่อให้คนไทยที่จะกลับบ้านเดินทางเข้าประเทศไทย โดยยกเลิกการกักตัว และก่อนจะกลับต้องมีการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ก่อนเดินทางเกิน 14 วัน มีผลตรวจ RT-PCR ยืนยันว่าไม่พบเชื้อโควิด ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง มีประกันสุขภาพ ยกเว้นคนไทยที่มีหลักประกันสุขภาพอยู่แล้วที่ไม่จำเป็นต้องมีประกันอย่างน้อย 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ส่วนความกังวลที่บางจังหวัด ในพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด ยังมีการติดเชื้อสูงอยู่ จะมีการชะลอการเปิดไปก่อนหรือไม่นั้น เรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขมีเกณฑ์ประเมินหลายด้าน โดยเน้นถึงการครอบคลุมฉีดวัคซีนในพื้นที่นั้นๆ รวมถึงดูจากอัตราการเสียชีวิตและอัตราการป่วยหนัก และต้องประเมินว่า ระบบสาธารณสุขในพื้นที่นั้นๆสามารถรองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ หากพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน กระทรวงสาธารณสุขมีเกณฑ์ประเมินมาตรการรองรับที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ เช่น กรณีจังหวัดเพชรบูรณ์ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการสั่งปิดภูทับเบิกใน 2 อำเภอ สามารถช่วยจำกัดวงติดเชื้อได้ไม่ให้กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ และในจังหวัดนำร่องพื้นที่สีฟ้า หากมีแนวโน้มแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ทางจังหวัดจะมีต้องมีการนำเสนอแผนเผชิญเหตุด้วย
 

พบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อในหลายจังหวัด

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปว่า  ส่วนคลัสเตอร์การติดเชื้อ ยังพบการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล และ คลัสเตอร์ใหม่ๆ ในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานและบริษัทเอกชนใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มแรงงานใน จ.แม่ฮ่องสอน อีกทั้งยังพบในชุมชนและตลาดในหลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ ลพบุรี เพชรบุรี

ขณะที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้พบการติดเชื้อในวงน้ำชา ที่มีการล้อมวงดื่มน้ำชากันยามเช้า รวมถึงวงน้ำกระท่อม โดยใช้แก้วเดียวกัน

พญ.อภิสมัย กล่าวถึง มาตรการ COVID Free Setting ในร้านค้า ร้านอาหาร ซึ่งมีข้อสังสัยว่า หากผู้ใช้บริการยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะถูกปฏิเสธไม่ให้ใช้บริการในร้านค้าหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ แต่เป็นการขอความร่วมมือขั้นสูงสุด เพราะถ้าหากผู้ประกอบการละเลยไม่ปฏิบัติตาม บุคลากรในร้านถือว่ามีความเสี่ยง รวมไปถึงผู้มาใช้บริการด้วย แต่ต้องให้ประชาชนมีเวลาปรับตัว สามารถยืดหยุ่นได้ เช่น การจัดโซนในร้านอาหารทั้งโซนในส่วนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม กับโซนสำหรับผู้ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เป็นต้น

ทั้งนี้ พญ.อภิสมัย กล่าวถึงผลการประชุมศบค.ส่วนหน้า จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมเน้นย้ำเรื่อง การเสียชีวิต 80% อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคและหญิงตั้งครรภ์ และ 90% ในกลุ่มผู้เสียชีวิตไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนหรือยังได้รับวัคซีนไม่ครบ ซึ่งแผนการควบคุมการแพร่ระบาด ทางผู้ว่าราชการจังหวัดใน 4 จังหวัดภาคใต้จะมีการเร่งฉีดวัคซีนมากขึ้น และมีแผนเพิ่มศักยภาพการฉีด ทั้งการระดมบุคลากรส่วนกลางลงไปช่วย และทางกองทัพอากาศส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์และบุคลากรไปช่วยการฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผน

ศบค.ย้ำการเปิดประเทศ ยึดปลอดภัย ระบบสาธารณสุขจะต้องรองรับได้