ก้าวหน้าไปอีกขั้น กัญชาขยายวงสู่ธุรกิจยาและอาหารสัตว์ 

25 ต.ค. 2564 | 11:59 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ต.ค. 2564 | 19:05 น.

ก้าวหน้าไปอีกขั้น กัญชาขยายวงสู่ธุรกิจยาและอาหารสัตว์ พร้อมผลักดันให้เป็น soft power ของการท่องเที่ยวไทย ปลุกปั้นเพื่อส่งออก พ่วงกระท่อมและสมุนไพรอื่น หวังชิงตลาดพืชสมุนไพรของโลก

 

การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ครั้งที่ 1/2565 วันที่ 25 ต.ค. 2564 มีประเด็นสำคัญของการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์หลายประเด็น ทั้งเรื่องการสร้างความรอบรู้กัญชาทางการแพทย์ การตรวจวิเคราะห์เทอร์ปีนในกัญชาสายพันธุ์ไทย การรายงานข้อมูลสารสนเทศกัญชาและกัญชง (Business Intelligence) แผนการตรวจราชการและตัวชี้วัดกัญชาทางการแพทย์เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้มากขึ้น โดยในปีนี้เน้นกลุ่มผู้ป่วยประคับประคอง แต่ประเด็นที่คณะกรรมการให้ความสำคัญมากก็คือ การขับเคลื่อนในเชิงเศรษฐกิจ เพื่อตอบรับกับนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล 

 

ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์  ได้ให้ข้อมูลว่า กัญชา เป็นพืชสมุนไพรของไทยมายาวนาน คนไทยรู้จักการใช้ประโยชน์ และข้อจำกัดกัญชาเป็นอย่างดี ไม่ได้มีความคิดว่ากัญชาเป็นยาเสพติด กัญชาถูกนำมาใช้หลากหลายทั้งการเป็นอาหารคน อาหารสัตว์ ยาคน ยาสัตว์ ช่วยแก้ปัญหาผิวและผม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น Intangible assets ที่เราคนไทยรู้จักมาก่อนชาติตะวันตก  และสิ่งเหล่านี้ก็ถูกพิสูจน์ด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์แล้วทั้งสิ้น นับว่าเป็นรากฐานที่สำคัญที่จะต่อยอดให้ด้านเศรษฐกิจได้ 

“วันนี้เราพูดคุยกันในประเด็นของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากพอสมควร เพราะเห็นศักยภาพของกัญชาและพืชสมุนไพรของไทย ที่จะเป็นอัตลักษณ์ของประเทศ สร้างความแตกต่างกันเพื่อการแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยวิเคราะห์ถึงความต้องการของตลาดโลก แล้วเอามาจับคู่กับศักยภาพของเรา"

 

ดร.ภก.อนันต์ชัย กล่าวว่า โลกหลังโควิด ประชาชนต้องการสมุนไพรเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง ต้องการอาหารที่ปลอดภัยไร้สารพิษ และผ่อนคลายความเครียดด้วยการท่องเที่ยว เราจึงได้วางแผนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์การเภสัชกรรม ที่ได้ไปวิเคราะห์ความต้องการตลาดต่างประเทศว่า มีบางประเทศต้องการนำเข้ากัญชาสายพันธุ์ไทยที่มี THC สูง ซึ่งตอนนี้เรากำลังศึกษาระเบียบและแนวทางร่วมกับกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และจะพิจารณากระท่อมไปด้วย

“วันนี้เราได้รับความกรุณาจากกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาให้ข้อมูลแนวทางการรับขึ้นทะเบียนอาหารสัตว์จากกัญชา ว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก ถ้าเราทำตรงนี้ได้เกษตรกรจะมีรายได้ที่ยั่งยืน เพราะตลาดอาหารสัตว์ในประเทศไทยมีมูลค่ามากถึง 2.6 แสนล้านบาท และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตสูงถึงร้อยละ 7-10 ต่อปี

 

และที่น่าสนใจกว่านั่นคือ ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ตรงนี้หากเราจับทิศให้ถูกจะมีโอกาสมากที่จะเป็น first mover ในตลาดอาหารสัตว์ สุดท้าย คือ การท่องเที่ยว ที่เรากำลังจะจัดงานเคาน์ดาวน์ที่ภูเก็ต ที่เป็นประตูเข้าบ้าน ซึ่งจะมีกิจกรรมเพื่อตอกย้ำแบรนด์กัญชาไทยให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เพจสถาบันกัญชาทางการแพทย์"