นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลภัยพิบัติประเด็นเรื่อง เตรียมรับมือพายุ 5 ลูก ที่จะส่งผลกระทบกับประเทศไทย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ถึงพายุ 5 ลูก ที่อาจส่งกระทบต่อประเทศไทยนั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ตรวจสอบและติดตามสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนในสัปดาห์นี้ (1 – 8 พฤศจิกายน 2564) พบว่ายังไม่มีสัญญาณการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย
อย่างไรอาจจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปรากฏบริเวณทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยในบางช่วงเวลา ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นได้ในระยะนี้ โดยพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม 2564 – 6 พฤศจิกายน 2564 พบว่าในช่วงดังกล่าว บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ส่งผลให้มีลมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับภาคใต้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้าท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยา สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://www.tmd.go.th, Facebook: กรมอุตุนิยมวิทยา, Application: Thai weather หรือติดต่อสายด่วน 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง) ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง