เหตุเริ่มต้นมาจากคลิป ‘จ้างทำโลโก้ราคา 20 / 2,000 / 20,000 บาท ปรากฏว่า..‘ จากช่อง ‘Riety’ ซึ่งเนื้อหาภายในคลิปเป็นการจ้างกราฟิกดีไซเนอร์ให้มาออกแบบโลโก้ Riety ให้ โดยมีการกำหนดราคาค่าจ้างที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ราคา 20-20,000 บาท โดยได้นำผลงานมาวิพากษ์วิจารณ์-เปรียบเทียบความคุ้มค่าราคาที่ต้องจ่าย
โดย ปั๋น Riety ยูทูบเบอร์เจ้าของช่องได้มีการโพสต์ชี้แจงไว้ภายในคลิประบุว่า “ผลงานที่ปรากฏในคลิปนี้ทั้งหมดได้ผ่านการตกลงซื้อขายลิชสิทธิ์ขาด ผ่านสัญญาที่มีผลบังคับทางกฎหมายเพื่อใช้ในการโฆษณา ผู้ถูกจ้างได้ยินยอมและลงนามสัญญาเรียบร้อยแล้ว”
นอกจากนี้คอมเมนต์ใต้คลิปได้มีการโพสต์ชี้แจงเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า “ปันขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อคนทำงานในคลิปนี้น๊า เพราะด้วย condition (เงิน+เวลา) บางงานเขาอาจจะไม่ได้แสดงฝีมือเต็มที่ กลัวจะเป็นดาบสองคมให้คนเข้าใจตัวดีไซเนอร์ผิดค่า”
จนกระทั่งต่อมา หนึ่งในดีไซเนอร์เจ้าของผลงาน ได้ออกมาเคลื่อนไหวโพสต์ถึงคลิปดังกล่าว ระบุว่า
“คืองี้ครับ เราคือหนึ่งในคนที่ Riety ว่าจ้างให้ “ออกแบบ Logo” ให้ใหม่ เราคุยบรีฟกับทางตัวแทนในเบื้องต้น บรีฟก็คือ
Budget : xxxxxxxx บาท
กำหนดส่ง : เสาร์นี้ เวลา 09.00
โจทย์ : ทำโลโก้ riety ให้ดูมีความผจญภัย, มีความเป็นศิลปะ, และมีความ unisex มากขึ้น
(ออกแบบสร้างสรรค์ได้ตามสไตล์ค่ะ) แล้วก็ทำโมชันกราฟิกกับภาพที่ออกแบบเรียบร้อยแล้ว (ฟรีสไตล์)”
พอได้รับข้อความนี้มา เราก็เริ่มถามถึงสโคปงานที่ชัดเจน ถามถึง style, ref, mood and tone,
และอีกหลายสิ่งที่เราจะสามารถเอามาตีฟูหรือทำเป็นโครงของคอนเซปต์ให้กับ Logo นี้ได้ คำตอบที่ได้คือ “แล้วแต่เลยค่ะ คุณ…ทำอะไรกับมันก็ได้เลย”
ด้วยระยะเวลาที่มีให้มันสั้นมาก เราจึงทำอะไรได้ไม่มากยกเว้นแต่ใช้วิธีโยนหินถามทาง ทำไปให้เลือก 2 option
ไปในคืนวันศุกร์ ก่อนกำหนดส่งเช้าวันเสาร์
เวลาผ่านเลยไป 3-4 วัน เราทักไปถามถึง feedback เพราะเห็นว่าเป็นงานด่วน เราอยากรีบปิดงานให้มันจบ
เพราะเรามีงานอีกหลายงานที่รอการใส่ลง schedule ของเราอยู่ คำตอบที่ได้คือ “ยังไม่มี feedback เลยค่า”
จนมาถึงวันที่ทางทีมเค้าส่งคลิปนี้มาบอกว่างานถูกลงแล้วนะ ตอนนั้นคือเราสตั๊นไปเลย เราคิดในหัว “ลงงานอะไรวะ เอาโลโก้กูไปลงที่ไหน ยังไม่ได้ไฟนอลดราฟต์กันเลย อะไรวะ” งงไปหมดตอนนั้น พอเข้าไปดูคลิปในนั้นก็เต็มไปด้วยคำถามมากมายในหัว
การเปรียบเทียบแบบนี้มันถูกต้องแล้วหรอ?
หลักการให้คะแนนคืออะไร?
ทำไมถึงเอางานที่ยังไม่ไฟนอลมาโชว์?
งานที่ยังไม่ได้ไฟนอลควรจะ confidential ไม่ใช่หรอ ทั้งฝั่งเราและลูกค้า?
เราว่ามันไม่ Make Sense มากๆในหลายๆ เรื่อง อย่างแรกเลยคือ ไม่แจ้งรายละเอียดว่าจะเอา Logo ชิ้นนี้มาทำ content ซึ่งแย่มาก อันนี้รับไม่ได้จริงๆ คือถ้าบอกกันก่อน ให้เราตัดสินใจ อันนี้จะโอเคมากๆ เพราะมีสิทธิ์ที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้ และมีความ “ตั้งใจจะหลอก” เรามากๆ เหมือนกันนะ ตรงที่เราถามถึง feedback ก็ไม่มีกลับมา นั่นแปลว่าอะไร…นั่นแปลว่าทางทีมคุณกำลัง edit video โดยใช้ Logo ดราฟต์แรกของผมอยู่ ซึ่งบอกตรงๆว่า เซ็ง เซ็งมาก รู้สึกผิดหวังมากๆ
สองคือบรีฟ “ตามสไตล์” นั่นแปลว่าอะไร นั่นแปลว่าคุณเห็น portfolio ผม แล้วคุณถูกใจจึงมาจ้าง โดยมีโจทย์ “หลวมๆ” มาให้ และเราพยายามทำการขุดข้อมูลพยายามจะแลกเปลี่ยนแล้ว แต่ทางคุณบอกว่า “ตามสไตล์” ซึ่งมันจะไปสู่ข้อสาม
ข้อสามคือคุณมาให้คะแนนผลงานที่มันยังไม่เสร็จไม่ได้ และหลักการให้คะแนนของคุณคืออะไร สิ่งเหล่านี้มันวัดไม่ได้ และมันยังชักจูงคนที่เข้ามาดูด้วยว่า 20 กับ 20,000 ของ 20 ยังสวยกว่าอีก
ซึ่งมันไม่ได้นำพาวงการ Graphic Designer ไปสู่อะไรเลย ไม่เข้าใจจุดประสงค์นี้จริงๆ ว่ามันคืออะไร
ข้อสี่ สำหรับตัวเรา เราว่าถ้างานชิ้นนั้นอยู่ระหว่าง”กระบวนการทำงาน” เป็นอะไรที่ confidential นะ ไม่ควรเอามาเผยแพร่สู่ public ใดๆ ทั้งสิ้น มันยังเป็นไข่อยู่ด้วยซ้ำ แต่กลับถูกเอามา judge เอามาให้คะแนน คือบอกตรงนี้เลยว่า ถ้า Logo นี้ได้เต็ม 10 ทุกข้อตามที่ตั้งเอาไว้ เราก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นนะ เพราะมันวัดอะไรไม่ได้ สารตั้งต้นมันยังไม่แข็งแรงเลย จะมาตัดสินอะไรได้
สุดท้ายที่อยากจะบอกคือ เรารู้สึกแย่มากๆ ที่ถูกปฏิบัติเหมือนหนูทดลองของคุณ”
ภายหลัง ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งดีและไม่ดี บ้างก็ว่าไม่ควรเอามาวิจารณ์ผลงาน เนื่องจากยังเป็นแค่การดราฟ การบรีฟหลวม ๆ และไม่ให้ฟีดแบคของลูกค้า และไม่ใช่งานไฟนอล บ้างก็เข้าใจจุดประสงค์ของปั๋น ว่าเพื่อให้ศิลปินแสดงฝีมือเต็มที่โดยไม่มีบรีฟมาเป็นกรอบ และอีกอย่างปั๋นก็ไม่ได้ระบุชื่อศิลปิน ตามที่แจ้งในเม้นต์ (อธิบายด้วย) และผลงานก็ซื้อสิทธิขาดเป็นของปั๋นแล้ว
ด้าน ปั๋น Riety เมื่อได้เกิกระแสดังกล่าวขึ้น ได้มีการออกมาโพสต์ขอโทษเบื้องต้นพร้อมเผยว่า เจ้าตัวจะรีบออกแถลงทุกอย่างให้เร็วที่สุด โดยระบุว่า
“ขอบคุณหลายๆคนที่เข้ามาดูคลิปนี้และตลอดเวลาที่ผ่านๆมา และต้องขอโทษที่ทำให้มีเรื่องข้องใจเกิดขึ้นนะคะ ปั๋นจะรีบดำเนินการและแถลงทุกอย่างให้เร็วที่สุดเพื่อให้เกิดผลกระทบกับทุกฝ่ายให้น้อยที่สุดค่ะ”
ล่าสุด (26 พ.ย.) ทางยูทูบเบอร์สาวก็ได้มีการออกมาโพสต์ขอโทษอีกครั้ง เผย เจ้าตัวขอโทษที่ลืมนึกถึงจิตใจของคนที่ทำงาน ไม่มีเจตนาข่มดีไซเนอร์ท่านอื่น ส่วนเรื่องการเผยแพร่ยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดหลักเกิดจากการติดต่อสื่อสาร จึงความเกิดความเข้าใจผิดกัน โดยระบุว่า
“สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นปั๋นต้องขอโทษกับคลิปล่าสุดที่ได้ลงไป ยอมรับก่อนเลยว่าทางเราผิดที่ทำคลิปและคอนเทนต์นี้ขึ้นมา ทำให้คนจำนวนมากรู้สึกแย่ โดยเฉพาะคนที่เราว่าจ้าง ซึ่งนั่นไม่ใช่ความตั้งใจแรกที่ปั๋นทำคลิปขึ้นมาค่ะ
ความตั้งใจจริงของปั๋นคือ อยากให้สังคมวงกว้างเข้าใจว่างานออกแบบมีราคา มีค่าวิชาชีพ และไม่ควรหวังให้ดีไซเนอร์ทำงานเกินราคา แต่ปั๋นไม่สามารถสื่อสารเรื่องนี้ออกมาได้ดี กลับกลายเป็นสร้างผลลัพธ์ในทางลบแทน
จุดสำคัญคือปั๋นลืมนึกถึงจิตใจคนที่นำงานมาพูดถึงในคลิปนี้ ตรงนี้ปั๋นขอยอมรับผิดและขอโทษจากใจจริงค่ะ
และในเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสม น้ำเสียง ท่าทาง ที่ปั๋นสวมหมวกผู้ว่าจ้างที่วิจารณ์สินค้า ซึ่งไม่เหมาะสม
ปั๋นไม่มีเจตนายกตนหรือข่มดีไซเนอร์ท่านอื่น ตรงนี้จะเก็บไปปรับปรุงตัวเองหนักๆแน่นๆเลยค่ะ
ในขั้นตอนการทำงานเบื้องหลัง ทางทีมได้ส่งบรีฟชุดเดียวกัน และได้ร่างสัญญาจ้างขอซื้อผลงานต่อนักออกแบบ 5 คน โดยไม่มีระบุเรื่องแก้ไขงานหรือดราฟ เพียงแค่ส่งงานสมบูรณ์ 1 ชิ้น จบวันที่ 13 พ.ย และบริษัทจะนำไปใช้ต่อได้โดยไม่ติดเงื่อนไขใด
เบื้องต้นในคลิป ทางเราปิดชื่อดีไซเนอร์ทุกคนเพื่อปกปิดตัวตนจากการทำคอนเทนต์นี้และป้องกันคนจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อรองราคางานในอนาคต
แต่ความผิดพลาดหลักเกิดจากการติดต่อสื่อสารงาน
ผู้ติดต่อประสานงานแจ้งผู้ออกแบบว่าจะนำภาพไปใช้ตามเงื่อนไขในสัญญาซึ่งค่อนข้างกว้าง อีกทั้งไม่ได้พูดคุยจบงานกับผู้ออกแบบก่อนนำไปลงคอนเทนต์อย่างเป็นทางการเนื่องจากยึดวันที่ในสัญญาเป็นหลัก จึงเกิดความเข้าใจผิดกัน
อย่างไรก็ตาม นี่คือข้อผิดพลาดของการสื่อสารในทีมปั๋นเอง และจะระวังไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอย่างนี้อีก
ท้ายที่สุดปั๋นอยากจะขอโทษและขอบคุณที่ทุกคนพูดกับปั๋นตรง ๆ จริง ๆ ความผิดในจุดนี้ ปั๋นขอยอมรับผิด จะคิดถี่ถ้วนมากขึ้นในการทำคอนเทนต์ และไม่ทำคอนเทนต์ที่มีการดึงบุคคลอื่นเข้ามาร่วมในลักษณะนี้อีก
ที่มีกระแสการคอมเมนต์ติ วิจารณ์ปั๋นมา ก็ถูกต้องและปั๋นควรได้รับแล้ว
เพราะปั๋นคอมเมนต์งานคนอื่น คนดูก็คอมเมนต์งานปั๋นเช่นกัน เป็น process ธรรมชาติของผู้ผลิตงานและผู้รับชม ที่ถึงอ่านแล้วจะเสียใจมาก แต่จะปรับปรุงตัวอย่างจริงจัง จึงขอน้อมรับเหตุการณ์นี้ไปเป็นบทเรียนในการทำงานร่วมกับผู้อื่นครั้งต่อไปในอนาคตค่ะ
ปั๋นและทีมงาน Riety Studio”