28 พ.ย.64 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานว่า ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 8 จังหวัด ทั้งนี้จากความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ในห้วงวันที่ 23 – 28 พ.ย. 64 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉบับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง รวม 30 อำเภอ 91 ตำบล 393 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,987 ครัวเรือน
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 3 จังหวัด 12 อำเภอ 27 ตำบล 84 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,894 ครัวเรือน ดังนี้
1.ชุมพร น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหลังสวน รวม 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผกระทบ 109 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา และอำเภอท่าฉาง รวม 19 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,695 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
3.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอขนอม อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอนาบอน และอำเภอบางขัน รวม 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 90 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลดง
ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 28 พ.ย. 2564 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม รวม 15 อำเภอ 117 ตำบล 820 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 38,926 ครัวเรือน โดยภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่องแต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ดังนี้
1.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 306 ครัวเรือน
2.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 267 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,053 ครัวเรือน
3.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล และอำเภอลาดบัวหลวง รวม 18 ตำบล 135 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,838 ครัวเรือน
4.ปทุมธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 61 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,301 ครัวเรือน
5.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 46 ตำบล 335 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,428 ครัวเรือน
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง